สร้างต่อ 'อควาเรียม' วางงบปี63
"หมอธี" ใช้งบปี 63 เดินหน้าสร้างอควาเรียม ชี้อาจล่าช้า เหตุเปลี่ยนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ขณะที่ “สุเทพ” คาดสรุปเสนอ รมว.ศธ.พิจาณาต้นเดือนมี.ค.นี้
เดินหน้าสร้างต่อ! สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ อควาเรียม ทะเลสาบสงขลา วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ล่าสุด นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า เรื่องดังกล่าวกำลังเร่งให้ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ดำเนินการอยู่ ซึ่งเบื้องต้น นายสุเทพ รายงานให้ทราบว่า ได้ประชุมคณะทำงานเรื่องนี้ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานแล้ว โดยเท่าที่ทราบความคืบหน้าการเดินหน้าก่อสร้างต่ออาจล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ การประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มอบหมายให้ นายสุเทพ หารือกับนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รับทราบถึงการเดินหน้าก่อสร้างอควาเรียมต่อด้วย เนื่องจากในอนาคตหากก่อสร้างเสร็จสิ้น ทส.จะรับไปดูแลต่อไป อย่างไรก็ตามงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการเพื่อเดินหน้าก่อสร้างอควาเรียมนั้นจะเป็นงบของปี 2563
ขณะที่ นายสุเทพ เล่าว่า คณะกรรมการบริหารจัดการโครงการปรับปรุงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ อควาเรียม ทะเลสาบสงขลา ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานนั้น ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นหนึ่งชุด เพื่อสำรวจและประเมินสำหรับเดินหน้าก่อสร้างอควาเรียมต่อ โดยพบว่าจะต้องมีการซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ของเดิม จำนวน 10 รายการ ได้แก่ 1.งานสถาปัตยกรรมตกแต่งภายใน 2.งานระบบยังชีพสัตว์น้ำ 3.ห้องเตรียมอาหารและกักกันวิเคราะห์โรคสัตว์น้ำ 4.งานตกแต่งตู้จัดแสดง 5.งานระบบไฟฟ้าและระบบแสงสว่าง ระบบสื่อสารและเตือนภัย 6.งานระบบท่อน้ำดี น้ำทิ้ง และท่ออากาศส่วนจัดแสดง 7.งานปรับปรุงภูมิทัศน์ 8.งานถนนและลานจอดรถ 9.พันธุ์สัตว์น้ำ และ 10.งานปรับปรุงสถาปัตยกรรมโครงสร้างและระบบอาคารที่ยังไม่ได้สำรวจ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณในส่วนนี้ จำนวน 296 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำรวจพบว่าต้องมีการติดตั้งเพิ่มเติมที่เป็นของใหม่อีกจำนวน 4 รายการ ได้แก่ 1.งานระบบปรับและระบายอากาศ 2.งานสนับสนุนลิฟท์ทางเลื่อน 3.งานระบบ UPS สำรองและกันกระแสไฟเกิน และ4.ค่าบริหารจัดการโครงการตามลักษณะของการบริหารจัดการ เช่น ค่าใช้จ่ายบุคลากร ค่าสาธารณูปโภค และอุปกรณ์สิ้นเปลืองค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารสัตว์ ค่ายารักษาโรค เป็นต้น โดยคาดว่าใช้งบประมาณ จำนวน 135 ล้านบาท ดังนั้น รวมการใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดในการเดินหน้าอควาเรียม จำนวน 431 ล้านบาท คณะกรรมการบริหารจัดการฯจะสรุปแผนการดำเนินการทั้งหมดให้ รมว.ศธ.พิจาณาได้ต้นเดือนมี.ค.นี้ก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออควาเรียมหอยสังข์ ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เริ่มดำเนินการปลายปี 2550 สมัยนายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) นายวิจิตร ศรีสอ้าน เป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. กำหนดแล้วเสร็จปี 2554 วงเงินอนุมัติ 835,576,200 บาท ภายใต้ 26 งวดงาน โดยอควาเรียมหอยสังข์ สร้างขึ้นบนพื้นที่โครงการ 7,800 ตารางเมตร เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พันธุ์ไม้น้ำ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา ซึ่งผ่านไป 10 ปียังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยเดินทางไปตรวจสอบ และระบุว่า โครงการนี้ใช้งบฯ ไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท แยกเป็น เฟสที่หนึ่ง 835 ล้านบาท ก่อสร้างอาคาร เฟสที่สอง 269 ล้านบาท สร้างระบบเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เฟสที่สาม 42 ล้านบาท และเฟสที่สี่ 258 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปี 2550-2561 มีเลขาธิการ กอศ. ดูแล 5 คน ไล่ตั้งแต่ นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ซึ่งเสียชีวิตแล้ว นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ และนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการ กอศ. คนปัจจุบัน ตลอดปี 2550-2557 มีการแก้ไขปัญหาถึง 6 ครั้ง ล่าสุด ได้มีการสะสางเรื่องทุจริตอควาเรียมหอยสังข์ และเดินหน้าสร้างต่อ