ครั้งนี้รุนแรงที่สุด! 'เอกชัย' แจ้งความถูกลอบเผารถหน้าบ้านพัก
"เอกชัย หงส์กังวาน" เดินทางเข้าแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลาดพร้าว หลังถูกลอบเผารถที่จอดไว้หน้าบ้านพักส่วนตัวภายในซอยลาดพร้าว 109
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่ สน.ลาดพร้าว นายเอกชัย หงส์กังวาน อายุ 44 ปี นักเขียน นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย เดินทางเข้าแจ้งกับ พ.ต.ท.มนเดช มาแนมสว(สอบสวน).สน.ลาดพร้าว หลังถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสัน รุ่นซันนี่ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน พพ 8102 กทม. ที่จอดไว้ที่หน้าบ้านพักส่วนตัวภายใน ซอยลาดพร้าว 109 แยก3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พร้อมนำคลิปกล้องวงจรปิดมามอบให้ เพื่อเป็นหลักฐาน
นายเอกชัย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วานนี้ เพื่อนบ้านได้มาบอกให้ตนไปดูรถที่จอดไว้หน้าบ้าน เนื่องจากพบว่ามีร่องรอยถูกไฟไหม้ จึงรีบออกไปดู ปรากฎว่าสภาพตัวรถด้านซ้ายมีรอยไหม้ดำเป็นแถบยาว ทั้งนี้ตนจึงได้ประสานขอดูกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้าน ซึ่งก็พบว่าเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา มีชายผมสั้น อายุประมาณ20 กว่าปี ใส่เสื้อแขนยาว สวมกางเกงขาสั้น เดินมาข้างรถพร้อมใช้น้ำมันราดไปที่ตัวรถด้านซ้าย แล้วใช้ไฟแช็คจุดจนไฟลุกท่วม ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกไปทางปากซอย
นายเอกชัย เล่าต่อว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นการลอบทำร้ายทางทรัพย์สินเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งที่อุกอาจมากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกทำร้ายร่างกายมาทั้งหมด 5 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 จนมาถึงวันที่ 19 ม.ค.62 ที่ถูกทำร้ายร่างกายในพื้นที่สน.ชนะสงคราม
นายเอยชัย เปิดเผยอีกว่า ตนตั้งข้อสังเกตุว่าตนเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้วยกันที่ถูกทำร้ายมากที่สุด แต่อย่างไรก็ดีทางเพื่อนในกลุ่มก็ให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตุว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนได้มีการแจ้งความเอาผิดกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง และยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากสาเหตุทางการเมือง เนื่องจากไม่เคยมีปัญหาด้านอื่นๆ
“ทั้งนี้ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติต่อไปแต่เพียงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น อาจจะต้องมีเพื่อนขณะเดินทางออกไปนอกบ้าน” นายเอกชัยกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้สั่งการให้ทางร้อยเวร และประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ เก็บหลักฐานต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดี นอกจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม โดยเน้นในเส้นทางหลบหนี เนื่องจากคาดว่าคนร้ายอาจจะไม่ได้มาเพียงลำพัง อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี และให้ความเป็นธรรม
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำนายเอกชัย และตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ผู้เสียนำมามอบให้ และรอหลักฐานเพิ่มเติมจากฝ่ายสืบสวน เพื่อเร่งติดตามจับตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุด