ชงแนวทางแก้ฝุ่นพิษ เข้าครม.วันนี้
เน้นมาตราการปกติ ส่วนวิธีพิเศษยังไม่มีความจำเป็น ชี้เด็กคือเป้าหมายเฝ้าระวัง เสนอเพิ่มชุดโมบาย หลังเครื่องวัดปริมาณฝุ่น ไม่เพียงพอ และขาดประสิทธิภาพ
ทำเนียบรัฐบาล - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองในขณะนี้ว่า หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม และจะนำแนวทางที่ได้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.วันนี้ ทั้งนี้ได้มีการพูดถึงในเรื่องของ PM 2.5 ว่ามีสถานะเช่นไร มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน โดยภาพรวมแล้วสถานการณ์ PM 2.5 ในปีนี้ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมามีน้อยกว่าซึ่งทางด้านการแพทย์ได้ยืนยันการส่งผลกระทบต่อสุขภาพต้องใช้เวลาและไม่มีหลักฐานว่าเมื่อร่างกายได้รับไปแล้วจะส่งผลทันที
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นกลุ่มบุคคลที่ควรระวังคือเด็กที่จะส่งผลกระทบในอนาคต ขณะที่ผู้ใหญ่อาจจะสะสมเป็น 10 ปีถึงจะแสดงผล สำหรับแหล่งกำเนิด PM 2.5 นั้น มาจากรถยนต์ดีเซล 50% ส่วนที่เหลือมาจากการก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนวิธีดำเนินการ เนื่องจากในอากาศมีส่วนประกอบหลายส่วนรวมทั้ง PM 2.5 การดำเนินการบางอย่าง จะใช้ไม่ได้ผล เช่น PM 10 จะใช้น้ำฉีดได้ผล แต่ถ้าเป็น PM 2.5 จะต้องไปแก้ที่ต้นกำเนิด โดยมี 3 มาตรการ คือมาตรการระยะเร่งด่วน แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ใช้กฎหมายปกติ เช่นใน กทม.ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ในห้วงเวลาที่กำหนด และต้องมีการตรวจและต้องไม่มีค่าของเขม่าเกินตามที่กฎหมายระบุไว้ รวมถึงมาตรการอื่นๆที่สามารถทำได้ส่วนมาตรการเสริมเช่นการกวาดถนนการฉีดละอองน้ำ ในขณะที่ มาตรการที่ 3 และ 4 เป็นการใช้มาตรการเสริมพิเศษอื่นๆถ้าจำเป็น ซึ่งจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ การใช้ชีวิต การสัญจร การคมนาคม หรือโลจิสติกส์ จึงมองว่ามาตรการ 3 และ 4 ยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ ต้องหารือกันอีกมาก
พล.อ.อนุพงษ์ ย้ำว่า แต่สิ่งหนึ่งสังคมต้องช่วยกันตระหนักในเรื่องของแหล่งกำเนิด PM 2.5 คือจากรถดีเซลจึงขอความร่วมมือ ถ้าแก้ปัญหาที่ต้นกำเนิดก็จะลดทันที และหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือประชาชนก็มีผลตอบรับที่ดีขึ้น หน่วยราชการไม่ใช้รถดีเซล อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 และ 13 กุมภาพันธ์นี้ สภาพฝุ่นก็จะเพิ่มมากขึ้นอีกห้วงหนึ่ง ส่วนการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณฝุ่นละอองในตัวเมืองใหญ่ๆนั้น เรายังมีไม่เพียงพอและ ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเครื่องวัดปริมาณฝุ่นมีคุณภาพราคา 8 ล้านบาท แต่ขณะนี้แค่ควรมีชุด โมบายมาเพิ่มก่อน