รองเลขาฯ กกต. แจงใช้มาตรฐานเดียว ตรวจสอบทุกพรรคการเมือง
รองเลขากกต.แจงใช้มาตรฐานเดียวตรวจสอบพรรคการเมืองระดมทุน ยันต้องใช้เวลา ปัดให้ความเห็นคำร้องยุบ12พรรค เผยผู้สมัครที่ศาลไม่คืนสิทธิลงเลือกตั้งอาจถูกดำเนินคดีมีโทษอาญา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.62 นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีพรรคพลังประชารัฐถูกร้องเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนว่า เรื่องการระดมทุน และการบริจาค กกต.มีมาตรฐานเดียวกันในการตรวจสอบ ใช้กับทุกพรรค ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบถึงที่มาของเงิน ใครบริจาคบ้าง มีคนต่างชาติร่วมบริจาคด้วยหรือไม่ ส่วนที่ร้องว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขาดคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะเป็นหัวหน้าคสช.เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น ก็ทราบว่า เป็นเรื่องที่มีผู้ร้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน กกต. สำหรับกรณีพรรคอนาคตใหม่ลงประวัตินายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เกินความเป็นจริงนั้น ยังไม่ตรวจสอบว่ามีผู้ร้องมาแล้วหรือไม่ แต่ถ้าเป็นกรณีความปรากฎหรือมีเหตุสงสัยกกต.สามารถตรวจสอบเองได้ แต่ในชั้นนี้ขอยังไม่ให้ความเห็นว่าเป็นความผิดหรือยัง
รองเลขาธิการกกต. กล่าวด้วยว่า กกต.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ และได้มีการแจ้งลบข้อความ และโพสต์ ที่ผิดกฎหมายและมีลักษณะต้องห้ามโดยออกคำสั่งไปแล้วหลายฉบับ เพื่อปกป้องผู้สมัครและพรรคการเมืองที่สุจริต ซึ่งมีจำนวนมาก แต่ที่ยากคือการโยงไปถึงผู้กระทำผิด และการลบข้อความในทันทีเพราะต้องประสานไปยังหน่วยงานของรัฐและเจ้าของเว็ปไซด์ ซึ่งบางรายอยู่ในต่างประเทศ
นายแสวงกล่าวถึงกรณีที่พรรครวมใจไทยยื่นขอให้กกต.พิจารณาเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ 12 พรรคการเมือง ที่เข้าไปแก้ไขฐานข้อมูลสมาชิกพรรคเพื่อให้ผู้สมัครมีคุณสมบัติในการลงสมัครว่า ยังไม่เห็นเรื่อง และยังไม่ขอพูดเรื่องนี้ เมื่อถามต่อกรณีหากศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามกกต.ที่ไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัครเนื่องจากขาดคุณสมบัติ ผู้สมัครรายนั้นจะมีความผิดหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า มีความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายที่จะต้องเป็นผู้พิจารณาหลังศาลฎีกามีคำพิพากษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.กำหนดว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี