อัยการชี้ฝากขังไม่ได้แต่แรก! ดับกระแสมโน ปลุกเร้าเห็นใจ 'ธนาธร-อนค.'

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อ.น.ค.) , นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค และน.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค เดินทางมาถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้ง 3 ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1-3 ในคดีที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจ จาก คสช. แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 ให้ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งสามตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชน

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 จัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเพจอนาคตใหม่ – The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวกรณีพลังดูดของ คสช. โดยพนักงานสอบสวน ปอท. ได้นำตัว พร้อมสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐาน กับความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหาทั้งสาม มาที่สำนักงานคดีอาญา ชั้น 3 โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมารับตัวเพื่อเข้าพบนายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่นายธนาธร มาถึงมีผู้สนับสนุนพรรค ทั้งวัยรุ่นและผู้สูงวัย เดินทางมาให้กำลังใจนายธนาธร นำดอกกุหลาบสีส้ม ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์พรรค พร้อมถือกระดาษ ขนาด A4 ที่พิมพ์โลโก้พรรคอนาคตใหม่ มาชูให้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายธนาธร ซึ่งนายธนาธร ก็มีสีหน้ายิ้มแย้ม รับดอกไม้ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคน

ขณะที่สมาชิกพรรค นำโดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ , นายคารม พลพรกลาง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ก็เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

นายธนาธร หัวหน้าพรรค อ.น.ค. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบอัยการว่า วันนี้ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ วันนี้ให้รอดูอัยการจะมีคำสั่งเป็นอย่างไร โดยวันนี้มีกำลังใจดี และเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม พวกเราทั้งสามคนไม่หนักใจ ซึ่งตนยังมั่นใจในสิทธิการแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ผู้มีอำนาจ อย่างไรก็ดีไม่เป็นห่วงเรื่องกระแสคดีต่อผลกระทบของพรรคเราในการเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ซึ่งกระแสของพรรตอนาคตใหม่ดีขึ้นทุกวัน จึงมีความพยายามเตะตัดขาด แต่ก็ไม่หนักใจเราจะทำงานตามแผนและอุดมการณ์ของพรรคให้กับประชาชนต่อไป

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 11 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา พร้อมด้วย "นายประยุทธ เพชรคุณ" รองโฆษกอัยการ ร่วมกันแถลงข่าวการับมอบสำนวนจาก ปอท. กล่าวหานายธนาธร หัวหน้าพรรค อ.น.ค. กับพวก

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการ กล่าวว่า สำนวนคดีที่รับมอบจาก พนักงานสอบสวน กก.3 ปอท. รวม 2 สำนวน สำนวนที่ 1 คดีอาญาที่ 32/2561 และสำนวนที่ ​​2 คดีอาญาที่ 33/2561 ซึ่งทั้งสองสำนวนดังกล่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พ.อ.บุรินทร์ ผู้รับมอบอำนาจ เป็นผู้กล่าวหา นายธนาธร ,นายไกลก้อง , น.ส.จารุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 1- 3 ในข้อหาร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศความมั่นคง ทางเศรษฐกิจของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตามพระราชบัญญัติ การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560) มาตรา 14 (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 โดยเหตุการกระทำผิดที่ถูกกล่าวนั้นเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ซึ่ง พ.อ.บุรินทร์ ผู้กล่าวหา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ปอท. เมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสาม เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ในวันที่ 17 ก.ย.61 โดยผู้ต้องหาทั้งสามให้การปฏิเสธทั้ง 2 สำนวน และได้รับการปล่อยตัวไปในชั้นพนักงานสอบสวนหลังจากมามอบตัวและมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว

ทั้งนี้ นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสำนักคดีอาญา ได้กล่าวว่า หลังจากรับสำนวนคดีจาก ปอท.แล้วในชั้นอัยการจะส่งไปให้อัยการสำนักงานคดีอาญา 6 เป็นผู้รับผิดชอบ และเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนสนใจ คดีสำคัญ การพิจารณาคดีต้องทำอย่างรอบคอบจึงมีการตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาด้วยโดยให้รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะฯ ซึ่งอัยการพิจารณาสำนวนตามพยานหลักฐาน โดยอัยการยังไม่สามารถที่จะมีความเห็นทางคดีได้ทันภายในช่วงการเลือกตั้งแน่นอน จึงนัดให้ผู้ต้องหาทั้งสามมารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งคดี (นัดสั่งคดีครั้งแรก) ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เพื่อฟังว่าจะมีการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องอย่างใด

ขณะที่นายประยุทธ รองโฆษกอัยการฯ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหาก นายธนาธร เดินทางมาที่สำนักงานอัยการในวันนี้แล้ว จะถูกนำตัวไปฝากขังด้วยว่า การฝากขังไม่สามารถเป็นไปได้อยู่แล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 113 เพราะผู้ต้องหาได้ถูกปล่อยตัวไปตั้งแต่ชั้นสอบสวนแล้วโดยไม่มีหลักประกัน เพราะผู้ต้องหาได้เข้ามามอบตัวเอง ขณะที่การจะใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 เรื่องการฝากขังนั้นหมายความว่า ต้องมีเหตุที่จะต้องฝากขังคือผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งกระบวนการฝากขังนั้นต้องทำภายในเวลาไม่เกิน 6 เดือนนับตั้งแต่วันแรก แต่คดีนี้เลยเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาดังกล่าวมาแล้วเพราะคดีเริ่มตั้งแต่ปี 61 และผู้ต้องหาทั้งหมดนี้ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงไม่มีกระบวนการกลับไปสู่การฝากขังอีก

ทั้งนี้ รองโฆษกอัยการฯ ยืนยันด้วยว่า สำนวนคดีดำเนินการตามขั้นตอน และเท่าที่ดูสำนวนเบื้องต้น พนักงานสอบสวน ไม่มีการเร่งรัดคดีแต่อย่างใด เพราะหลังแจ้งความได้ได้เริ่มสอบสวนคดีมาตั้งแต่ปี 61 ขณะที่หากผู้ต้องหา เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมชั้นพนักงานอัยการได้

เมื่อถามว่า หากสั่งคดีหลังเลือกตั้งแล้วถ้าผลการเลือกตั้งนายธนาธรได้เป็น ส.ส.จะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง ในการไม่ถูกดำเนินการสั่งฟ้องช่วงที่มีการเปิดประชุมสภา ส.ส.ใหม่หรือไม่ นายประยุทธ รองโฆษกอัยการฯ กล่าวว่า ปกติตามรัฐธรรมนูญฯ บัญญัติเอกสิทธิ์ ของ ส.ส.ไว้อยู่แล้ว ขณะที่กฎหมายก็ได้กำหนดอำนาจฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการไว้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่มีการเลือกตั้ง จึงยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น

ภายหลังพบอัยการแล้ว ด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายธนาธร กล่าวว่า คดีนี้ ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี 2 สำนวน เนื่องจากมีการกล่าวหาว่านำข้อความเดียวกันนั้นเผยแพร่ลงในเพจ 2 ที่คือเพจ The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วันที่ 29 มิ.ย.61 จึงเป็นการกระทำผิด 2 กรรม โดยแยกสำนวน ภายหลังเข้าพบพนักงานอัยการ มีมารดาของนายธนาธรมาให้กำลังใจ

ขณะที่ นายธนาธร กล่าวว่า วันนี้พนักงานอัยการนัดพวกเรา ให้มารับฟังความคืบหน้าคดีอีกครั้งในวันที่ 26 มี.ค. อัยการได้เข้าใจพวกเราเป็นอย่างดี ไม่ได้เรียกพวกเรามารายงานตัวระหว่างที่เรากำลังทำกิจกรรมเพื่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้

"ขอให้พี่น้องขาวอนาคตใหม่ไม่ต้องกังวล ถึงแม้ความคืบหน้าทางคดีจะปรากฎหลังเลือกตั้ง แค่เราห็ไม่กังวลเพราะเชื่อว่าอัยการจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม สุจริต โปร่งใส และมืออาชีพ เราจึงไม่มีความกังวลใจในคดีนี้"

เมื่อถามว่า ในชั้นพิจารณาของอัยการ จะมียื่นคำร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ในชั้นพนักงานอัยการ เราจะยื่นขอให้อัยการ สั่งพนักงานสอบสวนไปสอบสวนพยานเพิ่มเติม ก่อนนี้เราเคยขอไปในชั้นพนักงานสอบสวนให้สอบสวนเพิ่ม 2 ปาก แต่ก็ไม่ได้มีการสอบเพิ่ม เราจึงเตรียมที่จะยื่นคำร้องขอในชั้นอัยการ และจากที่พูดคุยในชั้นสอบสวน เราเห็นว่าตำรวจมีความพยายามที่จะเร่งรัดคดีในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ส่วนเจตนาจะเป็นอย่างไรให้ประชาชนตัดสิน

“จากนี้คงให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมเเต่ตนเชื่อมั่นในความบริสุทธิใจที่เราเเสดงออกต่อประชาชน เราเชื่อว่าประเทศไทยมีการรับรองสิทธิการเเสดงความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้มีอำนาจดังนั้นไม่กังวลใจ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการส่งสำนวนและส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้อัยการแล้ว มารดาของนายธนาธร ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจบุตรชายที่สำนักงานอัยการด้วย