จับตาศาลอุทธรณ์ตัดสินคดี 'สนามกอล์ฟอัลไพน์' หลังศาลชั้นต้นสั่งจำคุก2ปี
นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตัดสินคดี "สนามกอล์ฟอัลไพน์" หลังศาลชั้นต้นสั่งจำคุก "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" ไม่รอลงอาญา
วันนี้ (28 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อท.38/2559 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อายุ 77 ปี อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 กรณีนายยงยุทธ ขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ พิจารณาอุทธรณ์และสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน โดยมีเจตนาช่วยเหลือ บริษัท อัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด, บริษัท กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในเวลาต่อมา ให้ได้รับประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฏหมาย
คดีนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2559 เห็นว่า การที่จำเลยพิจารณาอุทธรณ์และมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินซึ่งให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นธรณีสงฆ์จากการที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่ถึงแก่ความตายแล้วได้ทำพินัยกรรมยกที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหารนั้น จำเลยออกคำสั่งโดยมิชอบโดยจงใจละเลยข้อเท็จจริงต่างๆ และยังจงใจตีความกฎหมายให้ผิดเพี้ยนไปจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2482 ที่ระบุให้กระทรวงถือปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดังนั้น คำสั่งของจำเลยจึงเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแก่ผู้อื่น และก่อให้เกิดความเสียหายแก่วัดธรรมิการามวรวิหาร ทั้งยังทำลายศรัทธาของผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เช่นนางเนื่อม จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง พิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยได้ระบอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยศาลตีราคาหลักทรัพย์ 5 แสนบาท