ระวัง!โรคหัดระบาดหนัก"ไทย"ติดกลุ่มท็อปเท็น
ปี 2561ผู้ป่วยหัดทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 50% คร่าชีวิตประชาชนราว 136,000 คน
รายงานจากยูนิเซฟ ระบุว่าระหว่างปี 2560-2561 ผู้ป่วยโรคหัดทั่วโลกเพิ่มขึ้น 48.4% ในปีที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นใน 98 ประเทศเมื่อเทียบกับปี 2560 ขณะที่ความขัดแย้ง ความพึงพอใจว่าป้องกันหัดได้แล้วและขบวนการต่อต้านวัคซีนบั่นทอนความพยายามกำจัดหัดที่ทำมานานหลายสิบปี
นางเฮนเรียตตา ฟอร์ กรรมการบริหารยูนิเซฟ กล่าวว่า นี่ถือเป็นสัญญาเตือนว่า ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่ในปี 2561 ถือเป็นการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง หากไม่ลงมือแก้ไขเสียแต่วันนี้จะเกิดหายนะกับเด็กๆ ในอนาคต
โรคหัดติดต่อกันได้ง่ายกว่าวัณโรคหรืออีโบลา แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนราคาไม่แพง อย่างไรก็ตามปีที่แล้วองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) รายงานว่าผู้ป่วยหัดเพิ่มขึ้นเกือบ 50% คร่าชีวิตประชาชนราว 136,000 คน ยูเครน ฟิลิปปินส์ และบราซิล เพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
เฉพาะยูเครนอย่างเดียวมี 35,120 คน เพิ่มขึ้นมากที่สุด สูงกว่าในปี 2560 เกือบ 30,000 คนบราซิลพบผู้ป่วย 10,262 คน เทียบกับปี 60 ที่ไม่มีเลยสักคน ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ที่ผู้ป่วยหัดเพิ่มขึ้นมากมักเป็นประเทศที่ขัดแย้งหรือเกิดความไม่สงบ แต่ฝรั่งเศสก็พุ่งขึ้น 2,269 คน
บางประเทศที่ผู้ป่วยพุ่งขึ้นมากเพราะข้ออ้างเลื่อนลอยไร้หลักฐานทางการแพทย์ว่า วัคซีนหัดเกี่ยวข้องกับออทิสติก ขบวนการแอนตี้วัคซีนช่วยแพร่สะพัดข่าวในโซเชียลมีเดีย
เดือนที่แล้วดับเบิลยูเอชโอรายงานว่า การลังเลไม่ยอมฉีดวัคซีน ถือเป็น 1 ใน 10 สุดยอดภัยคุกคามต่อสาธารณสุขโลกประจำปีนี้
นางฟอร์ชี้ว่า ผู้ป่วยในเกือบทุกกรณีสามารถป้องกันได้ และเด็กบางคนกลับติดเชื้อหัดทั้งๆ ที่อยู่ในประเทศที่มีวัคซีนพร้อม
“หัดอาจเป็นเชืื้อโรคก็จริง แต่การติดเชื้อในหลายๆ กรณีเกิดเพราะได้ข้อมูลผิด ไม่เชื่อใจ และประมาทเกินไปคิดว่าหัดไม่ระบาดแล้ว”
นอกเหนือจากประเทศที่ว่ามา อีก 6 ประเทศติดกลุ่มท็อปเท็นของยูนิเซฟ พบผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มได้แก่ เยเมน เวเนซุเอลา เซอร์เบีย มาดากัสการ์ ซูดาน และไทย ส่วนในสหรัฐปี 2561 พบผู้ป่วยหัดรวม 791 คน เพิ่มขึ้นจาก 120 คนในปี 2560 หรือเพิ่มขึ้นถึง 559%