“เศรษฐพงค์” ลงพื้นที่ระยอง ชูแก้กฎหมายช่วยเหลือ “ชาวประมง” ทั้ง 22 จังหวัดทั่วปท. ลั่น “คนไทย-เรือไทย-ประมงไทย” ต้องมาก่อน
พรรคภูมิใจไทย นำโดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคฯ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส. ระยอง เขต 1 นายดนัย วิริยะสหกิจ หรือ โป๊ะเชะ โดยได้ลงพื้นที่หมู่บ้านชาวประมง ชุมชนบ้านสวนสน ซึ่งมีชาวประมงมาบอกถึงปัญหาการทำประมง และยืนเรื่องร้องทุกข์ของให้พรรคภูมิใจไทยช่วยเหลือด้วย
ทั้งนี้ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่พบชาวประมงว่า เรื่องการแก้ปัญหาให้ชาวประมงนั้น พรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ มีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก เราจึงทำนโยบายที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวประมงโดยเฉพาะ ด้วยการแก้กฎหมายประมง เพื่อทางรอดชาวประมงไทย เพื่ออนาคตประมงทะเล ซึ่งอาชีพประมงมีปัญหาจาก ข้อกำหนด ระเบียบ กฎหมายต่างๆ ที่รัฐบาลยอมทำตามองค์กรระหว่างประเทศ ในการหาเรื่องกีดกันสินค้าประมงจากประเทศไทย
โดยเฉพาะเรื่องข้อกำหนดด้านแรงงาน จนทำให้เจ้าของกิจการประมงหลายรายต้องขาดทุน หรือ ปิดตัวไป ส่งผลให้ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องต้องปิดกิจการไปด้วย เช่น โรงงานผลิตน้ำแข็ง โรงงานผลิตกระป๋อง หากไม่มีการแก้ไขกฎ ระเบียบ กฎหมายจำนวนนับร้อย ๆ ฉบับที่เป็นกฎเหล็กในขณะนี้ อาชีพประมงและธุรกิจเกี่ยวเนื่องดังกล่าวอาจจะสูญหายไปจากประเทศไทย
“พรรคภูมิใจไทยต้องเร่งแก้ไขเรื่องการทำประมง ที่ต้องทำให้เรือไทย เจ้าของคนไทย เป็นนายจ้างที่มีศักดิ์ศรี และรัฐบาลไทยต้องคุ้มครองคนไทยมาเป็นลำดับแรก พรรคภูมิใจไทยเรามีแนวคิดหลักชัดเจน คือ ทะเลไทย ประมงไทย เรือไทย คนไทย ต้องมาก่อน” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ในการช่วยเหลือพี่น้องชาวประมง หรือแก้ปัญหาปากท้อง พรรคภูมิใจไทยเราได้นายดนัย วิริยะสหกิจ หรือ โป๊ะเชะ มาเป็นผู้สมัครสส. ระยอง เขต 1 ของพรรค ซึ่งนายดนัย ถือได้ว่าเป็นคนเกาะติดพื้นที่มาโดยตลอด เข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี และครั้งนี้ถึงโอกาสแล้วที่จะอาสาเข้ามาเป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ซึ่งการพรรคภูมิใจไทยอาสาเข้ามาผลักดันแก้ไขกฎหมายประมงนั้น ไม่ใช่เพื่อช่วยชาวประมงที่จังหวัดระยองเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงทั้งหมด 22 จังหวัดทั่วประเทศ ขอให้พี่น้องชาวประมงเชื่อใจและมั่นใจในนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เพราะเราคิดและทำเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายดนัย กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนเองถือเป็นคนโนเนม ไม่ได้เด่นดังอะไร แต่ตนทำงานหนักในพื้นที่มาโดยตลอด เพราะตนต้องการเข้ามาช่วยพี่น้องชาวจังหวัดระยองให้กินดีอยู่ดี เพราะที่ผ่านมาทราบว่าพี่น้องชาวระยองประสบกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งมีผลกระทบไปถึงการท่องเที่ยว ดังนั้นความตั้งใจของตนคือต้องการเข้ามาแก้ปัญหาปากท้อง รวมทั้งเรื่องปัญหาการประมง ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญจริงๆ
“ทราบมาว่าตอนนี้กระแสนิยมของผมจะตามมาเป็นอันดับ 2 แต่ผมไม่เคยท้อ และทำงานพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าพี่น้องชาวระยองจะเห็นความตั้งใจจริงของผม ที่ตั้งใจมาทำเพื่อคนระยอง ก็หวังว่าจะพี่น้องชาวระยองจะให้ความไว้วางใจกับผม” นายดนัย กล่าว และว่าตนไม่กังวลถึงผลวิเคราะห์ที่ออกมาว่า พรรคประชาธิปัตย์จะกวาดที่นั่งในพื้นที่จังหวัดระยองแบบยกจังหวัด แต่ผลสำรวจที่ออกมาจะทำให้ตนเองมุ่งมั่นหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายอย่างหนัก
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดระยองทั้ง 2 เขต คือเขต1 และ เขต4 พบว่ากระแสตอบรับจากประชาชนดีมาก ซึงผู้สมัครของพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างหนักทำให้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะสามารถชนะการเลือกตั้งพร้อมปักธงที่ภาคตะวันออกได้อย่างแน่นอน โดยในเขตของนายดนัย ถือว่าดีมากอาจจะเป็นเขตที่ปักธงให้พรรคภูมิใจไทยได้
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่จังหวัดระยอง มีผู้สมัคร ส.ส. ที่เป็นอดีต ส.ส.หน้าเก่าและมีผู้สมัครหน้าใหม่ลงชิงชัยในครั้งนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่เขต 1 พรรคภูมิใจไทยจะต้องแข่งขันกับแชมป์เก่าอย่างนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งอดีตนักการเมืองท้องถิ่นอีกหลายคน