ปิดสะพานข้ามแยกอโศก–เพชรบุรี 6 เดือน

ปิดสะพานข้ามแยกอโศก–เพชรบุรี 6 เดือน

บก.จร. และ กทม. เร่งประชาสัมพันธ์ ปิดสะพานข้ามแยกอโศก–เพชรบุรี เพื่อซ่อมแซมเริ่ม 9 มี.ค.–4 ก.ย.นี้ รวม 6 เดือน

จากกรณีกรุงเทพมหานคร ได้ให้ผู้รับเหมาเข้าดำเนินการซ่อมแซมสะพานข้ามแยกอโศก – เพชรบุรี ระยะเวลา 6 เดือนตั้งแต่ วันที่ 9 มี.ค. –4 ก.ย.2562 โดยจะมีการปิดสะพานข้ามแยกอโศก – เพชรบุรี ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบการจราจรในถนนเพชรบุรี และถนนบริเวณใกล้เคียง นั้น

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562 พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจสอบที่สะพานเหล็กข้ามแยก อโศก-เพชรบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวหได้รับทราบว่า ตั้งแต่ วันที่ 9 มีนาคม - 4 กันยายน 2562 รวมระยะเวลา 6 เดือน โดยจะดำเนินการปิดสะพานเหล็กข้ามแยก ถนนอโศก-เพชรบุรี ทั้งขาเข้าและขาออก  เพื่อดำเนินการซ่อมแซม เนื่องจากโครงสร้างสะพานและพื้นผิวจราจรบนสะพานชำรุดและได้เสียหาย

พ.ต.อ.สรเสริญ เปิดเผยว่า สะพานดังกล่าวถูกใช้งานมานานถึง 49 ปี มีหลายจุดที่ชำรุดทั้งผิวถนน รวมถึงโครงเหล็กจำกัดความสูงถูกรถเฉี่ยวชน จึงจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่โรงเรียนปิดเทอม จึงเหมาะสำหรับการดำเนินงาน เพราะอาจมีปัญหาน้อยกว่าปกติ ซึ่งจะเริ่มปิดถนนตั้งแต่เที่ยงคืนนี้เป็นต้นไป โดยแนะนำหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรบริเวณสะพานแยกอโศก-เพชรบุรี ไปใช้ถนนกำแพงเพชร 7 ถนนพระราม 9 ถนนนิคมมักกะสัน และถนนสุขุมวิท แทน เพื่อเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในบริเวณนี้

พ.ต.อ.สรเสริญ เปิดเผยว่า ปกติแล้วการจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นประจำ ซึ่งการปิดสะพานข้ามแยกยิ่งเพิ่มปัญหาการจราจรติดขัด โดยหากไม่มีความจำเป็นก็ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว หรือ หากมีความจำเป็นต้องใช้เส้นทางก็ให้ศึกษาเส้นทางดังกล่าวในการสัญจร โดยแนะนำให้ใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน และ เผื่อเวลาในการเดินทางอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง หากมีปัญหาการจราจรสามารถแจ้งได้ที่ 1197 หรือ ศูนย์ควบคุมจราจรกองบังคับการตำรวจจราจร ส่วนเรื่องสัญญาณไฟจราจรยังคงใช้ตามปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีการปรับทิศทางการจราจรบนถนนกำแพงเพชร 7 เพื่อให้เหมาะกับการใช้เป็นเส้นทางหลีกเลี่ยงแยกอโศก-เพชรบุรี ทั้งนี้ภายหลังซ่อมแซมสะพานแล้วเสร็จ จะไม่อนุญาตให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขึ้นสะพาน พร้อมกำชับ ตำรวจในพื้นที่ให้เข้มงวดกวดขันมากขึ้น

ด้านนายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการวิศวกรรมทาง สำนักงานโยธา กรุงเทพฯ ระบุถึงการซ่อมสะพานว่า กรุงเทพมหานครจำเป็นต้องซ่อมสะพานดังกล่าวทั้งหมดเนื่องจากอายุการใช้งานนานถึง 49 ปีแล้ว และไม่สามารถซ่อมแซมบางส่วนได้ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการรื้อคานและเหล็กพื้นสะพานออกไปซ่อมที่โรงงาน โดยจะเหลือเพียงเสาตอหม้อเดิมไว้เท่านั้น ซึ่งรถจะไม่สามารถใช้สะพานดังกล่าวได้ เบื้องต้นได้มีการเร่งรัดผู้รับเหมาดำเนินการปรับปรุงโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทางโดย

สำหรังจัดการจราจรบริเวณแยกอโศก – เพชรบุรี ปิดการจราจรสะพานข้ามแยกอโศก – เพชรบุรีทั้งขาเข้า และ ขาออก โดยให้ใช้ทาง ดังนี้

  1. ถนนเพชรบุรี (ขาเข้า) สามารถเดินรถพื้นราบผ่านแยกอโศก – เพชรบุรีได้ 3 ช่องทาง
  2. ถนนเพชรบุรี (ขาออก) สามารถเดินรถพื้นราบผ่านแยกอโศก – เพชรบุรีได้ 2 ช่องทาง
  3. บริเวณแยกอโศก – เพชรบุรี จัดระบบการจราจรตามรอบสัญญาณไฟตามปกติ

และได้ปรับการจราจรบริเวณแยกอโศก – ดินแดง (ใกล้แยกอโศก – เพชรบุรี)

  1. ถนนกำแพงเพชร 7 (ขาเข้า) สามารถเดินทางผ่านแยกอโศก – ดินแดง ได้ทุกทิศทาง
  2. ถนนกำแพงเพชร 7 (ขาออก) เดินทางผ่านแยกอโศก – ดินแดง ให้เลี้ยวซ้ายได้ทิศทางเดียว (ห้ามตรงไปและห้ามเลี้ยวขวาไปแยกอโศก – เพชรบุรี)
  3. บริเวณแยกอโศก – ดินแดง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเป็นผู้ให้สัญญาณจราจร

เส้นทางแนะนำมีดังนี้

  1. เส้นทางพื้นราบ แนะนำให้ใช้ ถนนพระราม 9, ถนนสุขุมวิท, ถนนกำแพงเพชร7, ถนนเพชรอุทัย, ถนนนิคมมักกะสัน, ถนนจตุรทิศ, ถนนราชปรารภ, ถนนชิดลม, ถนนวิทยุ, ถนนสุขุมวิท 3,ถนนสุขุมวิท 55 และ ถนนสุขุมวิท 63
  2. เส้นทางทางด่วน แนะนำให้ใช้ด่านอโศก 1, ด่านอโศก 2  และ ด่านพัฒนาการ 1

 

ทั้งนี้ บชน. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มักกะสัน และ บก.จร. จำนวนวันละ 12 นาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณแยกอโศก – เพชรบุรี, แยกอโศก – ดินแดง และพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อให้การจราจรเกิดความคล่องตัวและบรรเทาปัญหาการจราจรที่กระทบจากการปิดซ่อมสะพานข้ามแยกอโศก – เพชรบุรี บช.น. จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนในการเดินทาง และหากต้องการแจ้งอุบัติเหตุจราจร สอบถามข้อมูลเส้นทางข้อมูลจราจรเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลข โทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH