พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ชูนโยบายแก้ปัญหาเรื้อรัง ที่ใครไม่กล้าทำ
"พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย" ชูนโยบายโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง แก้ปัญหาเรื้อรัง ที่ใครไม่กล้าทำ
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.62 นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส. หมายเลข 6 เขต 1 จังหวัดน่าน จากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวว่า ทางพรรค เข้าใจปัญหาของคนส่วนใหญ่อาศัย และพึ่งพาอาศัยกับป่า ใน จ.น่าน จึงได้ชูนโยบายเป็นรูปธรรม จับต้องได้ “รักษ์ป่าไม้ เพิ่มผืนป่า คนอยู่กับป่า มีรายได้จากป่า ลดภาวะโลกร้อน” การลงพื้นที่ จึงมั่นใจ และเชื่อว่า เราทำได้ เพื่อชาวน่าน โดยเราจะเข้าไปแก้ปผัญหาให้ถุกจุด นำเสนอนโยบายดี ๆ คนอยู่กับป่า! ปลูกป่า! มีรายได้จากป่า! มีสิทธิทำกินในผืนป่าโดยชอบเป็นมรดกตกทอดไปยังลูกหลานได้! และสามารถลดภาวะโลกร้อนเป็นนโยบายที่ทำได้จริง! และเชื่อว่าชาวน่านต่างพร้อมเทใจให้พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เพราะด้วยนโยบายที่ดีของพรรค
นายสันติภาพ กล่าวด้วยว่า จากตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)30 มิ.ย.41 รับรองสามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเพื่อชาวน่านได้แน่นอน จึงยืนยัน นโยบายของพรรครักษ์ผืนป่า ประเทศไทยแก้ปัญหาคนอยู่กับป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ทำกินในผืนป่ามาก่อนพระราชบัญญัติป่าสงวนและพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติใช้บังคับ ต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์หากความปรากฏว่า ทำกินในผืนป่ามาก่อนต้องออกเอกสารสิทธิ์ หรือรับรองสิทธิ์อันเป็นสิทธิหรือรับรองสิทธิทำกินโดยชอบ เพื่อป้องกันปัญหาการกระทบกระทั่ง และเป็นการป้องกันการถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่รัฐ ถือเป็นหน้าที่ของพรรคที่จะต้องดำเนินการสิทธิทำกินนี้ สามารถตกทอดเป็นมรดกไปยังลูกหลานได้ และสามารถนำไปทำนิติกรรมจากสถาบันการเงินได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนน่านต้องการมานาน เพราะคนน่านมีชีวิตผูกพันและอาศัยอยู่กับป่าโดยพึ่งพาอาศัยกันและกัน จึงมั่นใจว่า ผู้สมัคร ของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยจะสามารถถอดรหัสนี้ได้
“ชาวประชาจึงมั่นใจว่า การปลูกป่า เมื่อป่ายั่งยืน สมบูรณ์ ป่าคือแหล่งท่องเที่ยวระบบเชิงนิเวศน์ ลดมลภาวะทางอากาศลดปัญหาอุทกภัยนำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดน่านป่าสร้างรายได้ สร้างงาน เมื่อคนอยู่กับป่า มีรายได้จากป่ามีเงินมาจับจ่ายทำให้ระบบเศรษฐกิจจากป่าสู่เมืองจากเมืองสู่ป่าเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้โดยการแก้ปัญหานี้พรรคฯทำได้จริงแน่นอน”
นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่กับป่าจะสามารถมีรายได้จากการปลูกป่าด้วย โดยพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ให้คำมั่นจริงจังว่า ทุกคนจะต้องมีรายได้จาการปลูกป่า โดยการปลูกป่าตามพันธุ์ไม้ที่กระทรวง กรมอุทยาน หรือกรมป่าไม้กำหนด เช่น ประดู่ พยุง มะค่า เป็นต้น โดยทางกรมป่าไม้จะเป็นผู้เพาะกล้าให้ หากท่านปลูกต้นไม้ไปแล้วในปีที่ 2 ท่านจะได้รับเงินชดเชยจากการปลูกต้นไม้จากรัฐซึ่งจะติดคิดตามเส้นรอบวงของแต่ละต้น เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายแล้วท่านจะมีรายได้มากกว่าพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าวโพด,กะหล่ำปลี และขิง ทำให้ท่านมีรายได้จากการปลูกป่า อันเป็นการลดภาวะโลกร้อน และมีรายได้จากการปลูกป่าจากพื้นที่ดินที่ทำกิน ที่มีการพิสูจน์สิทธิแล้ว
“โดยนโยบายเหล่านี้ สันติภาพ อินทรพัฒน์ เลขาธิการพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยสามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรม สอดคลองกับบริบท และความเป็นอยู่ของชาวน่านได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน ชาวน่านจึงเชื่อมั่นพร้อมที่จะเดินไปกับพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยพร้อมกัน”