นายกฯ จัด 'ศาสตร์พระราชา' ครั้งสุดท้าย ย้ำไม่ขัดแย้ง

นายกฯ จัด 'ศาสตร์พระราชา' ครั้งสุดท้าย ย้ำไม่ขัดแย้ง

นายกฯ จัดรายการ "ศาสตร์พระราชาศุกร์" ครั้งสุดท้าย ขอบคุณปชช.ติดตาม หลังจากนี้นำเสนอการเตรียมความพร้อมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เชิญชวนคนไทยสวมเสื้อเหลือง

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นการจัดรายการครั้งสุดท้าย ตอนหนึ่งว่า รายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตลอดช่วงระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา รายการนี้ได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน ของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ก็คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”

หลังจากนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศชาติและประชาชนไทย สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่ใกล้จะมาถึง ในห้วงวันที่ 4, 5 และ 6 พฤษภาคม ศกนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เดือนพฤษภาคม ดังนั้น เนื้อหารายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ต่อไป จะเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้ง การให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชพิธี ครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทยนี้ อีกครั้งหนึ่ง ตามโบราณราชประเพณี ซึ่งก็มีอยู่หลายเหตุการณ์ อาทิ การเตรียมน้ำอภิเษก จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ การจารึกพระสุพรรณบัฏ แกะดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกร และการเสด็จออกสีหบัญชร ให้ประชาชนได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทฯ ถวายพระพรชัยมงคล และขบวนพยุหยาตรา ทางพระสถลมารค (ทางบก) และทางชลมารค (ทางน้ำ) เป็นต้น  เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ และมีส่วนร่วม อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยรัฐบาลขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทย พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง เป็นเวลา 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ เป็นต้นไป สำหรับข้อมูลข่าวสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรายละเอียดสามารถติดตามได้จากช่องทางต่างๆ

IMG_19665_20190329205001000000

สำหรับการเดินหน้าประเทศของเราตลอดระยะเวลา 5 ปี ตาม Roadmap ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตั้งแต่การฝ่าทางตันทางการเมือง การก้าวข้ามความขัดแย้ง การปลดล็อคด้านงบประมาณ เพื่อจะคืนความสุขให้กับคนไทย คืนรอยยิ้มให้แผ่นดินเรา การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการผ่านประชามติ ตามหลักการประชาธิปไตย เพื่อแก้ปัญหาในอดีต การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคต ไปสู่ยุคดิจิทัล ไปจนถึงการกอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศ และยกระดับความมั่นใจในเสถียรภาพของประเทศในสายตาชาวโลก  

สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ทุกคนคงทราบและจำได้ดีว่า เราทุกคนได้ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค และ สิ่งที่ส่งผลร้ายแรงต่อชาติบ้านเมือง ท่ามกลางความขัดแย้งในแทบทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง กระบวนการยุติธรรม ท่ามกลางการสร้างแนวความคิดใหม่ๆ ซึ่งไม่ได้มาจากความต้องการที่แท้จริง ของประชาชน หาประโยชน์จากประชาชนบ้าง ให้มีความหวังโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ข้อเท็จจริง ปัญหาทับซ้อน รวมทั้ง บริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสีย หรือละทิ้ง “โอกาส” ที่รัฐบาลนี้ ได้สร้างไว้ด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกัน จับมือ - จูงมือกัน นำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำเตือนให้คนไทยทุกคน นักการเมือง พรรคการเมือง ช่วยกันทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ร่วมกัน “สร้างภูมิคุ้มกัน” ให้กับสังคมและประชาชน ด้วย “ความรู้คู่คุณธรรม” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วย