กกต. ติวเข้ม 35 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคดีเลือกตั้ง อย่าหวั่นไหวกับแรงเสียดทาน “ปกรณ์” แจงยิบไม่มีบัตรเกิน ส่วนปมบัตรนิวซีแลนด์กฎหมายบังคับกกต. ไม่ให้นับคะแนนบัตรเลือกตั้ง เปรียบเหมือนส่งบัตรชิงโชคมาถึงหลังจับรางวัลไปแล้ว
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิด การอบรมมอบนโยบายในการประชุมชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาและข้อโต้แย้ง ว่า อนุกรรมการที่ กกต.ตั้งขึ้นทั้ง 35 ชุด เป็นบุคคลที่มีความเป็นกลาง มีความซื่อสัตย์สุจริต การจัดประชุมชี้แจงในวันนี้ เพื่อเป็นการซักซ้อมการปฎิบัติงานให้มีเอกภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไป สังคมคาดหวังกับกกต. และอยากทราบผลการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็อาจจะไม่ได้รวดเร็วทันใจตามที่หวัง เพราะเราต้องทำหน้าที่ด้วยความรอบคอบถูกต้อง ด้วยความสุจริต ด้วยความเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการทำงานที่จำเป็น คือทำงานต้องมีคุณภาพ คุณธรรมและความรวดเร็ว คุณภาพคือมีความรู้รอบด้าน ถูกต้องครบถ้วน มีมาตรฐานในเนื้อหาสาระของงานที่ทำ ส่วนคุณธรรมคือ ความเป็นกลาง ปราศจากอคติ กล้าหาญ ยึดความถูกต้องตามตัวบทของกฎหมาย บนพื้นที่ฐานของหลักนิติธรรมคือ หลักความเป็นธรรมตามกฎหมาย ไม่หวั่นไหวต่อแรงเสียดทาน หรืออำนาจอิทธิพลใดๆ หากทำได้เช่นนี้ ก็ขอให้มั่นใจว่า คุณธรรมจะเป็นเกราะป้องกันตัว และองค์กร กกต.ก็จะสนับสนุนปกป้องการทำงานของท่าน อย่างเต็มที่ ส่วนคำว่ารวดเร็ว คือ ไม่ล่าช้า ความรวดเร็วในกรณีนี้คือไม่ล่าช้า ทำเสร็จตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
ด้านนายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการเลือกตั้ง กล่าวชี้แจงเรื่องบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ว่า เรามีคำตอบใน ขั้นตอนต่างๆ และกำลังจะตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายว่า ทำอะไรบกพร่องหรือไม่ และเป็นความรับผิดชอบของใคร ซึ่งในมาตรา 114 ของ พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. เงื่อนไขมีอยู่ 4 ข้อ แต่ข้อที่ต้องพิจารณามีอยู่ข้อเดียว ซึ่งเป็นข้อที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก แต่เราไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจได้ เงื่อนไขคือให้เรามีอำนาจสั่ง เมื่อบัตรเลือกตั้งไปถึงหน่วยเลือกตั้งภายหลังมีการนับคะแนนแล้ว เราจึงจะสั่งได้ว่าเป็นบัตรเสีย แต่กรณีนี้บัตรไม่ได้ไปถึง และการนับได้จบสิ้นแล้ว
"ท่านนึกถึงการเลือกตั้งต่างๆ และการส่งชิงโชคต่างๆ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว บัตรต่างๆ เอกสารต่างๆ ที่ส่งมาใช้สิทธิ ท่านจะมาสามารถมาขอให้นับเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว นับไม่ได้ เราจึงวินิจฉัยเช่นนี้ เราไม่ได้วินิจฉัยว่าเสียหรือดี ถ้าเราวินิจฉัยว่าเสีย ฝ่ายดีก็จะยกขึ้นมาอ้าง ว่าขอให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ถ้าวินิจฉัยว่าดีฝ่ายเสียก็จะยกขึ้นอ้าง อันนี้เป็นสิ่งที่สังคมรับรู้ จุดประสงค์เค้าเป็นอย่างนั้น" นายปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ กล่าวด้วยว่า ในวันเลือกตั้งหลังการลงคะแนน 2-3 ชั่วโมง เรานับคะแนนทุกหน่วยเรียบร้อย ประกาศคะแนนหน้าหน่วยกว่า 92,000 หน่วย ส่วนกรณีข้อวิจารณ์ว่ามีบัตรเกิน 4 ล้านกว่าใบ นั้น ขณะที่ กกต.แถลงข่าวระบบแรพพิทรีพอร์ต ขณะนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. ข้อมูลเพียงร้อยละ 93 ขาดอยู่ร้อยละ 7 หรือเหลืออีกกว่า 2 ล้านกว่าคน และเขตเลือกตั้งยังต้องเอาบัตรเลือกตั้งในต่างประเทศกว่าแสนใบ บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค.อีกกว่า 2 ล้านใบมานับรวม เมื่อรวมกันทั้งหมดก็คือ 4 ล้านใบเศษ ไม่มีการเพิ่มบัตรอะไรเข้าไปทั้งสิ้น นี่คือความจริง
"กรรมการประจำหน่วย (กปน.) กว่า 7 แสนคน ทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ชาวบ้าน ครู ฝ่ายปกครอง มาช่วย กกต.ทำหน้าที่ อาจจะผิดบ้าง 10 คน 100 คน นี่คือสิ่งที่กกต.กำลังจะตรวจสอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เที่ยงธรรม กฎหมายกำหนดให้ กกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.พร้อมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 หรือ333 เขต หาก กกต.ไม่ทำตามกฎหมาย เราก็จะผิด"นายปกรณ์กล่าว