นายกฯ งดตอบคำถามสื่อมวลชน บอกเหนื่อยต้องการพัก

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี งดสัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังเลิกประชุมคณะรัฐมนตรี โดยได้กล่าวสั่นๆว่าวันนี้เหนื่อย ต้องการพักผ่อน และร้องเพลงซาโยนาระ พร้อมมอบหมายให้พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบคำถามแทน โดยได้ยืนยันว่าการออกสารของนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ฉบับที่ผ่านมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่าทีของพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกในวันนี้ เนื่องจากไม่ทราบว่าผู้บัญชาการทหารบกจะพูดอะไร แต่การออกสารของนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นสิ่งที่ออกมาจากความรู้สึกของตัวเอง ที่มีความห่วงใย เพื่อต้องการสื่อสารให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณและสติมากกว่าอารมณ์ในการรับข้อมูลข่าวสาร ส่วนการที่ผู้บัญชาการทหารบกออกมาใช้คำว่าฝ่สยซ้ายติบโต้นักวิชาการนั้น เชื่อว่าไม่ได้หมายความแบบนั้นทั้งหมด และไม่ได้ต้องการจะสื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้ไปถึงขั้นนั้น แต่คงเป็นเพราะมีขบวนการบ่อนทำลายอยู่บ้าง

ส่วนเหตุการณ์ความเห็นต่างที่มีมากขึ้นในสังคมขณะนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งเหมือนในอดีตหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีมองว่าวันนี้ประเทศเกินมาถึงจุดที่มีการเลือกตั้ง และกำลังเดินหน้าสู่การปกครองในระบบประชาธิปไตย ที่กำลังจะมีการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นจึงต้องมองไปข้างหน้าและต้องไม่ถอยหลังกลับไป และเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นตามที่สื่อกังวลหากประชาชนใช้เหตุผล มีสติ และไม่หลงเชื่อข้อมูลที่บิดเบือน ทั้งนี้รัฐบาลไม่สามารถบังคับความคิดของใครไม่ได้ แต่ขอร้องว่าให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมองสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง ว่า ตอนนี้ก็เห็นอยู่ว่ามีความพยายามจากฝ่ายใดบ้างคงไม่ต้องพูดอะไร ซึ่งเห็นอยู่ว่าปัจจุบันฝ่ายไหนดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งสื่อทราบดีอยู่แล้ว จึงขอให้สื่อได้ช่วยกันติดตาม และให้ข้อมูลต่อสาธารณชน แต่ในส่วนรัฐบาลไม่ต้องการไปปรักปรำใคร

นอกจากนี้ ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งไม่เปิดเผยสูตรการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น นายกรัฐมนตรีบอกว่าต้องการให้ทุกคนได้ติดตามข่าวสารด้วยการใช้เหตุผล เปิดใจฟังการชี้แจงของ กกต. ซึ่งที่ผ่านมา กกต.ก็ได้มีการชี้แจงมาเป็นระยะ และไม่ต้องการให้ทุกคนรีบสรุปเพื่อหาคำตอบให้ตัวเอง เพราะทุกอย่างมีกฎกติกา รวมถึงกรณีที่คนไทยในนิวซีแลนด์ โพสต์ข้อความเฟสบุ๊คเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบกรณีบัตรเลือกตั้งด้วย

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี มองว่ากระแสกดดันจากต่างประเทศเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเป็นเรื่องภายใน ซึ่งหากเราไม่สร้างความกดดันในประเทศกันเอง ต่างประเทศก็จะมากดดันไม่ได้ แต่ที่ผ่านมามีผู้ไม่หวังดีพยายามที่จะทำให้เรื่องบานปลาย