ซื้อเสียงกระหึ่มศึกเลือกตั้งอินโดฯ
ผู้สังเกตการณ์และนักการเมืองยอมรับ การซื้อเสียงยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของการเลือกตั้งอินโดนีเซียที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 เม.ย.นี้ หลังมีสมาชิกสภาคนหนึ่งถูกจับพร้อมซองที่ใส่เงินสดรวม 8,000 ล้านรูเปี๊ยะห์
นางอัลมาส ไซอาฟรินา นักวิจัยกลุ่มเฝ้าระวังการทุจริตอินโดนีเซีย (Indonesia Corruption Watch) กล่าวถึงคดีของนายโบโว วิดิก ปังการ์โซ สมาชิกสภาที่ถูกควบคุมตัวเมื่อเดือนที่แล้วในข้อหายักยอกเงินบริษัทปุ๋ย และเจ้าหน้าที่พบกล่องจำนวนมากบรรจุซองใส่เงินสดเป็นธนบัตรย่อยราว 4 แสนซองว่า เป็นสิ่งยืนยันว่าการเมืองและการทุจริตยังคงมีความเกี่ยวโยงกันอย่างใกล้ชิด
“ผู้สมัครทุจริตต้องแจกเงินให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้หวังซื้อเสียงประชาชน โดยมักทำในคืนก่อนวันเลือกตั้ง หรือที่เรียกว่าคืนหมาหอน หวังเปลี่ยนใจคนรับเงินให้ลงคะแนนให้”
นักวิจัยรายนี้เสริมว่า เหล่าผู้สมัครไม่มีชื่อเสียงและผู้สมัครเจ้าของพื้นที่เดิมที่ไม่ค่อยพบปะประชาชนมักใช้วิธีซื้อเสียงมากกว่าโหมประชาสัมพันธ์ตัวเอง ขณะที่ประชาชนมองว่า เป็นโอกาสเดียวที่จะได้เงินหรือผลประโยชน์บางอย่างเพราะหลังวันเลือกตั้งผู้สมัครเหล่านี้ก็จะไม่มาให้เห็นอีก
นายซัปตา ฟีร์ดาอุส สมาชิกสภาวัย 37 ปีในจ.เบงกูลู บนเกาะสุมาตราเผยว่า เขาประสบเรื่องนี้กับตัวเองเมื่อลงเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2557 ชาวบ้านหลายคนถามเขาตรง ๆ ว่าจะให้เงินเท่าไหร่ แม้แต่ครอบครัวนักการเมืองยังเรียกรับเงินด้วย กลายเป็นสังคมที่ทำอะไรต้องได้สิ่งตอบแทนไปแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งครั้งก่อนผู้มีสิทธิเลือกตั้งถึง 1ใน 3 ถูกซื้อเสียง ผู้สมัครบางคนอ้างว่าให้เงินเพื่อให้ผู้ที่เป็นฐานเสียงอยู่แล้วออกไปใช้สิทธิเท่านั้น บางคนยอมรับว่า จ้างนายหน้าอิสระไปซื้อเสียงแกนนำฐานเสียงคู่แข่งที่พร้อมลงคะแนนให้ใครก็ตามที่จ่ายสูงกว่า
ในการหาเสียงเลือกตั้งนอกกรุงจาการ์ตาเมื่อไม่นานนี้ ประชาชนบางคนยอมรับว่ามีการซื้อเสียงอย่างแพร่หลาย
“เรื่องนี้เกิดขึ้นในทุกชุมชน” นายกุสเตีย นิงซีห์ วัย 33 ปีเผย และว่า “บางคนจะยอมรับเงินสดและเปลี่ยนใจไปกาผู้สมัครที่ให้เงิน แต่คนอื่น ๆ จะไม่เปลี่ยนใจแม้ได้รับเงินก็ตาม”
การเลือกตั้งวันที่ 17 เม.ย.เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อินโดนีเซียที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี และสมาชิกสภาที่ปรึกษาประชาชนซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนท้องถิ่นพร้อมกัน
ปัจจุบัน อินโดนีเซีย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 192 ล้านคนจากประชากรทั้งประเทศเกือบ 269 ล้านคน และมีผู้สมัครรับเลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์ถึง 2.45 แสนคน