สั่งสอบ! เหตุวัยรุ่นถูกยิงดับ หลังขึ้นศาลคดีทำร้ายตร.
"พล.ต.อ.จักรทิพย์" สั่งทำคดีตรงไปตรงมา เหตุวัยรุ่นถูกยิงดับ หลังขึ้นศาลคดีทำร้ายตร.
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี หญิงจำนวน 1 ราย ได้ร้องเรียนผ่านสื่อ โดยกล่าวอ้างว่า บุตรชายของตนซึ่งตกเป็นจำเลย ได้ขึ้นศาลเพื่อไกล่เกลี่ยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะถูกคนร้าย ยิงเสียชีวิตในคืนวันเดียวกัน แล้วได้หลบหนีไป โดยมีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ในเขตพื้นที่ สภ.เบญจลักษ์ ภ.จว.ศรีสะเกษ ว่าได้รับรายงานจาก สภ.เบญจลักษ์ ภ.จว.ศรีสะเกษ ว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 23.30 น. ได้รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงชายได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 ราย ภายในบ้านเลขที่ 41หมู่13 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
จากนั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว รั้วทำด้วยไม้ไผ่ บริเวณประตูบ้านซึ่งทำจากเหล็กโดยจากการตรวจสอบพบว่ามีรอยรูกระสุนปืนจำนวน 2 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นถูกพลเมืองดีนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลเบญจลักษ์ อยู่ก่อนแล้ว จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงทำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป รวมถึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลพบว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นเสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุทัศน์ ประเสริฐ หรือเต๋า อายุ23ปี จึงได้ร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพผู้ตาย
จากการสอบสวนมารดาของผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายซึ่งเป็นบุตรชายของตน ได้ตกเป็นจำเลยในคดีฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่” โดยศาลได้นัดไกล่เกลี่ย ในส่วนของคดีแพ่ง กับคู่กรณีที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 นาย ในวันที่ 19 เมษายน 2562 ก่อนที่บุตรชายของตนจะถูกตนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตในช่วงกลางคืนของวันเดียวกัน
ภายหลังเกิดเหตุ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารดาของผู้ตายได้กล่าวอ้างว่าบุตรชายของตนได้ตกเป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ไว้เป็นพยาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายนั้น ได้นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนประจำกายและที่มีไว้ในครอบครองมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อทำการตรวจสอบ ตลอดจนได้ส่งศพผู้ตายไปทำการผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาเบาะแส ข้อมูลของคนร้าย และเร่งรัดตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด และ ติดตามนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ โดยพนักงานสอบสวนได้เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและสอบปากคำพยาน ซึ่งสันนิษฐานปมในการก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะนี้รอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์อย่างละเอียด โดยยังคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการลงพื้นที่เพื่อหาพยานหลักฐานและจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านได้ กำชับพนักงานสอบให้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมทั้งฝ่ายสืบสวนให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชน มีข้อมูลหรือพบเบาะแสสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายในคดีดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สภ.เบญจลักษ์ หมายเลขโทรศัพท์ 045-605-155 และ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) หมายเลขโทรศัพท์ 1599