พร้อมเพรียง ซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค ครั้งที่ 2
วันนี้มีการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพยุหยาตราสถลมารค เพื่อเตรียมความพร้อมในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประจำปี 2562 โดยเป็นการฝึกซ้อมในสถานที่จริงครั้งที่ 2
และใช้ขั้นตอนปฏิบัติตามหมายกำหนดการในพระราชพิธีวันจริงทุกประการ ซึ่งภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชนสวมใส่เสื้อเหลืองมาเฝ้ารอชมด้วยความจงรักภักดี
การฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราสถลมารค ริ้วขบวนที่ 3 ครั้งที่ 2 เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและพร้อมเพรียงของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติหน้าที่ในตลอดเส้นทาง แม้ว่าสภาพอากาศจะร้อนอบอ้าว แต่เจ้าหน้าที่ก็ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง โดยตลอดสองฝั่งถนนที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน มีประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลือง ตลอดจนนักท่องเที่ยว มารอชื่นชมด้วยความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้จำกัดพื้นที่ให้ประชาชนเฝ้ารอชมได้เฉพาะบริเวณรอบนอกในจุดที่จัดไว้ให้เท่านั้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
สำหรับเส้นทางริ้วขบวน เริ่มเคลื่อนออกจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ผ่านประตูพิมานไชยศรี ในพระบรมมหาราชวัง แล้วเลี้ยวขวาที่หน้าประตูวิเศษไชยศรี เข้าถนนหน้าพระลาน เลี้ยวซ้ายแยกศาลหลักเมือง มุ่งหน้าสู่ถนนราชดำเนินใน ต่อจากนั้นเลี้ยวขวาที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ เข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนตะนาว เข้าวัดบวรนิเวศวิหาร จากนั้นริ้วขบวนเสด็จออกจากวัดบวรนิเวศฯ เข้าถนนพระสุเมรุ เลี้ยวขวาแยกผ่านฟ้า เข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง แล้วเลี้ยวซ้ายที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ เข้าถนนอัษฎางค์ เลียบคลองหลอด
สู่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร จากนั้นขบวนเสด็จออกจากวัดราชบพิธฯ เข้าสู่แยกวงเวียน รด. เข้าถนนท้ายวัง เสด็จเข้าสู่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หลังจากนั้นเสด็จฯ ออกจากวัดพระเชตุพนฯ เข้าสู่ถนนท้ายวัง เลี้ยวขวาที่ถนนมหาราช แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน เพื่อเข้าประตูวิเศษไชยศรี ในพระบรมมหาราชวังตามเดิม
ซึ่งการเดินในริ้วขบวนที่ 3 นี้ มีการกำหนดท่าตามเสียงจังหวะกลองด้วยการนับก้าว 85 ก้าวต่อนาที ก้าวละ 40 ซม. ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ รวม 6 เพลง มาร์ชราชวัลลภ, มาร์ชธงชัยเฉลิมพล, เพลงใกล้รุ่ง, เพลงยามเย็น, เพลงสรรเสริญเสือป่า และ เพลงสรรเสริญพระนารายณ์ และทุก 500 เมตร มีการสับเปลี่ยนกำลังพลแบกหาม ซึ่งจุดเปลี่ยนพลแบกหาม หมู่กลอง จะให้จังหวะซอยเท้ารอ เพื่อเปลี่ยนกำลังพลแบกหามให้เกิดท่วงท่าสง่างาม
โดยรูปแบบของริ้วขบวน เริ่มต้นด้วยตำรวจม้านำซ้ายขวา ตามวงดุริยางค์ทหารบก วงหน้า ,ต่อด้วยผู้บัญชาการกองผสม, ถัดมาเป็นกองพันทหารเกียรติยศนำ ต่อด้วยกำกับกลุ่มอำนวยการริ้วขบวน ต่อมาเป็นกำกับพระแสงระหว่างเครื่องหน้า, กำกับเครื่องสูงหน้า, เชิญพระแสงหว่างเครื่องหน้า, ถัดมาเป็นพระเกาวพ่าห์ , พระเสมาธิปัต , พระฉัตรชัย ต่อด้วยกลับสัญญาณ , ผู้บอกกระบวน ,ตามด้วยพราหมณ์เป่าสังข์ , ตำรวจหลวง ต่อด้วยนายทหารเชิญธงชัยพระครุฑพ่าห์ , นายทหารเชิญธงชัยราชกระบี่ยุทธ, กำกับพระที่นั่งทรง, ผู้ควบคุมคนแบกหามพระที่นั่งทรง และพระแสงรายตีนตอง,
ถัดมาเป็นพระที่นั่งพุดตานทอง ซึ่งในวันที่ 5 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งนี้ โดยมีพลแบกหาม 16 นาย ตามด้วยบังพระสูรย์ , พระกรด , พระทวย , พัดโบก , ถือม้ารองพระที่นั่ง, คนแบกหามสำรองพระราชยานพุดตานทอง ,ตามด้วยกำกับพระแสงหว่างเครื่องหลัง , เชิญพระแสงหว่างเครื่องหลัง, กำกับเครื่องสูงหักทองขวางหลัง จากนั้นเป็นมหาดเล็กเชิญพระแสงอัษฎาวุธ , มหาดเล็กเชิญเครื่องตาม , ประตูหลังซ้ายขวา , วงดุริยางค์วงหลัง , ร.11 รอ., รถยนต์พระที่นั่ง และรถพยาบาล
ต่อมาในเวลา 17.30 น. ริ้วขบวนได้เคลื่อนมาถึงบริเวณหน้าวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ซึ่งเป็นจุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเสด็จวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ด้วยพระราชยานพุตตานทอง โดยเมื่อริ้วขบวนซักซ้อมเคลื่อนมาถึงบริเวณหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร ได้มีการพักประมาณ 20 นาที จากนั้นกองอำนวยการ 13 นาย ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวม 13 นาย เข้าพักที่ห้องรับรอง ของหอสมุดมหามกุฏราชวิทยาลัย ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร จากนั้นได้มีผู้แทนกองไปสลับสับเปลี่ยน และเมื่อตอนอำนวยการ 13 นายพักเสร็จแล้วกลับเข้าสู่ขบวน และเคลื่อนไปยังวัดราชบพิธ และวัดพระเชตุพนตามลำดับ
เนื่องจากริ้วขบวนที่ 3 นั้น มีความยาวโดยประมาณ 500 เมตร รวมระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้มีการปิดเส้นทางจราจรในบริเวณที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน 40 เส้นทาง ตั้งเเต่เวลา 16.00 น. และสามารถกลับมาใช้เส้นทางได้ตามปกติในเวลา 21.30 น.
สำหรับการซักซ้อมริ้วขบวนเเล้วเสร็จในเวลา 21.30 น. วันนี้ และจะมีการซักซ้อมใหญ่เสมือนจริงครั้งสุดท้ายในวันที่ 28 เม.ย.นี้