นายกฯขอบคุณกำลังใจชาวสระแก้ว ขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทย
"พล.อ.ประยุทธ์" พบปะประชาชนที่มาให้การต้อนรับบริเวณสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา ขอบคุณกำลังใจจากชาวสระแก้ว ขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทย
วันนี้ (22 เมษายน 2562) เวลา 09.15 น. ณ บริเวณสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หลังจากพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพบปะกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับ โดยประชาชนบอกให้นายกรัฐมนตรีสู้ ๆ นายกรัฐมนตรีบอกขอให้สู้ร่วมกัน สู้กับความเดือดร้อน และเภทภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมบอกรักทุกคน และขอส่งใจให้ทุกคน แต่ขอให้เอาความรักความสามัคคีกลับคืนมา
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกำลังใจจากประชาชนที่มาให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ช่วยกันดูเรื่องปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงแรงงานหลบหนีผิดกฎหมาย พร้อมกับฝากให้ข้าราชการท้องถิ่นพัฒนาตัวเอง ทำงานเพื่อประชาชนให้มากขึ้น ทั้งนี้ ประชาชนต้องเรียนรู้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการค้าขาย ขอให้เพิ่มช่องทางการค้าขายสินค้าออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อ สร้างจุดขายเพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยต้องขับเคลื่อนด้วยคนทุกช่วงวัย ที่สำคัญต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คนไทยต้องมีความรักความสามัคคี มีความเคารพผู้ใหญ่ อย่าให้ใครมาเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ประเทศไทยต้องสงบ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนไทยทุกคน ในส่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทำทุกอย่างให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการดำเนินโครงการที่สำคัญต่าง ๆ อาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ และในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว รัฐบาลก็ได้ทำเพื่อประชาชนหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางสัญจร และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เพื่อเปิดป้ายสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา