ฟ้อง2อดีตผู้ตัดสินไทยลีก จูงใจล้มบอลดิวิชั่น 2

30 เม.ย.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายณฐกร ฉิมพาลี อายุ 33 ปี อดีตกรรมการผู้ตัดสินระดับไทยลีก 1 และอดีตสตาฟ์โค้ชทีมชาติไทย , นายเทอดศักดิ์ ทองกล่ำ อายุ 43 ปี อดีตกรรมการผู้ตัดสินระดับไทยลีก 2 , ด.ต.หรือนายพงศ์พันธ์ วงษ์สุบรรณ อายุ 50 ปี อดีตผู้บริหารสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่ง เป็นจำเลยที่ 1-3 คดีล้มบอลไทยลีกดิวิชั่น 2 ในความผิดฐานให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่น ใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม , เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นติดต่อผู้ตัดสินเพื่อให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 มาตรา 4,66 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84,91 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 - 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่หากผู้กระทำผิดเป็นผู้ตัดสิน จะระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี ปรับ 300,000 - 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งสามได้เดินทางเข้าพบอัยการ เพื่อรับฟังคำสั่งฟ้อง จากนั้นอัยการจึงได้พาตัวทั้งสามมา ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา

ซึ่งคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย.61 นายณฐกร จำเลยที่ 1 ได้ให้ หรือขอให้ หรือรับว่าจะให้เงินจำนวนเท่าใดไม่ปรากฏชัด เพื่อจูงใจให้นายสุระศักดิ์ หัสจรรย์ ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล ซึ่งจะทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ รายการไทยลีก 2 คู่ระหว่างทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรสาคร เอฟซี กับ ทีมสโมสรฟุตบอลระยอง เอฟซี ซึ่งจะทำการแข่งขันในวันที่ 21 เม.ย.61 เวลาประมาณ 19.00 น. ณ สนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อจูงใจนายสุระศักดิ์ ทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม โดยให้เข้าข้างช่วยเหลือให้ทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรสาคร เอฟซี ชนะทีมฟุตบอลระยอง เอฟซี

และวันเดียวกันที่ 20 เม.ย.61 นายพงศ์พันธ์ จำเลยที่ 3 ได้ใช้จ้างวานนายเทอดศักดิ์ จำเลยที่ 2 ให้ติดต่อนายสุระศักดิ์ ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล ทำหน้าที่ตัดสินเข้าข้างทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรสาครเอฟซีเช่นเดียวกัน โดยนายเทอดศักดิ์ จำเลยที่ 2 ได้เสนอว่าจะให้เงินจำนวนใดไม่ปรากฏชัด เพื่อจูงใจนายสุระศักดิ์ ผู้ตัดสินทำหน้าที่อย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรมอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยการกระทำของนายพงศ์พันธ์ จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ใช้ให้นายเทอดศักดิ์ จำเลยที่ 2 กระทำความผิดต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการเช่นเดียวกับจำเลยที่ 2 เหตุเกิดที่ ต.นาป่า , ต.คอลงตำหรุ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ชั้นสอบสวนนายณฐกร จำเลยที่ 1 และนายพงศ์พันธ์ จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ส่วนนายเทอดศักดิ์จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ อย่างไรก็ดีหากจำเลยทั้งสามยื่นขอปล่อยชั่วคราวก็ให้เป็นดุลยพินิจของศาล

โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1105/2562 ขณะที่จำเลยทั้งสามเตรียมยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่มีการล้มบอลไทยลีกนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2561 นั้นอัยการสำนักงานคดีอาญา ก็ได้ยื่นฟ้องคดีในประวัติศาสตร์ การล็อคผลสกอร์การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2017 หมายเลขดำ อ.2131/2561 ที่อัยการยื่นฟ้องจำเลยรวม 15 ราย ประกอบด้วยผู้ตัดสิน 2 ราย, นักฟุตบอลอาชีพ 8 ราย ในทีมราชนาวี และศรีสะเกษ เอฟซี และ กลุ่มนายทุน (พนัน) หรือตัวแทนนายทุน 5 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 มาตรา 64,66 และ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 โดยมีมูลเหตุจูงใจเป็นเงินพนัน ซึ่งกลุ่มนี้กระทำการใน 5 แมตการแข่งขัน โดยคดีรอสืบพยานโจทก์นัดแรกในเดือน ต.ค. 62