คาดผู้ต้องขังได้รับพระราชทานอภัยโทษราว 4-5 หมื่นคน
พรฎ.อภัยโทษผู้ต้องขังทั่วประเทศราว4-5หมื่นคน ราชทัณฑ์เร่งคัดกรองรายชื่อ ทยอยปล่อยภายใน 120 วัน "บุญทรง-ธาริต" ส่อได้ลดวันต้องโทษ
พ.ต.อ.ณรัชค์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษทุกเรือนจำ143 แห่งทั่วประเทศได้นำไปประกาศให้ผู้ต้องขังได้รับทราบ โดยอาจจะมีผู้ต้องขังที่ได้รับการลดโทษตามสัดส่วนและปล่อยตัวออกจากเรือนจำโดยกรมฯจะเร่งประเมินคุณสมบัติและเงื่อไขต่างๆเพื่อแยกให้ชัดว่า นักโทษทีจะได้รับการปล่อยตัวมีจำนวนเท่าไหร่ และได้ลดโทษตามชั้นต่างๆเป็นจำนวนเท่าใด โดยจะต้องทำให้แล้วภายใน 4 เดือนหรือ 120 วัน ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบจะดำเนินการอย่างอย่างรัดกุม มีกรรมการ 3 ฝ่ายประกอบด้วยผู้พิพากษา อัยการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบรายชื่อว่ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่ได้รับการอภัยโทษหรือไม่ เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จจึงจะส่งรายชื่อให้ศาลออกหมายปล่อย และต้องทยอยปล่อยเป็นรุ่นๆ
สำหรับการพระราชทานอภัยโทษให้ผู้ต้องขังถือเป็นโบราณราชประเพณีในวโรกาสเฉลิมฉลองพิธีบรมราชาภิเษกและเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา โดยกรมราชทัณฑ์จะจัดพิธีปล่อยตัวพร้อมกับจัดกิจกรรมให้ผู้ที่ได้รับพระทานอภัยโทษแสดงความจงรักภักดีด้วย อย่างไรก็ตามในพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ได้มีบัญชีลักษณะความผิดแนบท้ายที่เป็นคดีหลักและนโยบายสำคัญซึ่งผู้ต้องขังเช่น คดีค้ามนุษย์และค้ายาเสพติด คดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ทำผิดพ.ร.บป่าไม้ การฮั้วประมูล ก็จะได้ประโยชน์น้อยกว่าผู้ต้องขังคดีอื่น เช่น หากเป็นผู้ต้องขังอายุ เกิน 60 ปีเหลือโทษไม่เกิน 3 ปี แต่ถ้าติดเงื่อนไขในคดีแนบท้ายก็จะไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่จะเปลี่ยนเป็นลดวันต้องโทษตามสัดส่วนบางส่วน เว้นแต่เมื่อลดโทษแล้วไม่เหลือเวลาต้องโทษก็ต้องปล่อยตัวไป
ขณะที่รายงานข่าวเปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ต้องขังที่จะได้รับพระราชอภัยโทษประมาณ 4-5 หมื่นคน สำหรับคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกทำเนียบรัฐบาล ปี 2551 อยู่ในข่ายได้รับการอภัยโทษปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำด้วย เนื่องจากคดีนี้ศาลได้พิพากษาจำคุกผู้ต้องขังทั้ง 5 ราย ประกอบด้วยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 83 ปี, นายพิภพ ธงไชย อายุ 72 ปี, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี และนายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 45 ปี เป็นเวลา 8 เดือนตั้งแต่วันที่ 13 กพ.ที่ผ่านมา ยกเว้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งแม้จะมีอายุเกิน 70 ปี แต่เนื่องจากต้องโทษหลายคดีและมีคดีที่เข้าเงื่อนไขบัญชีแนบท้ายคดีเกี่ยวกับความผิดตลาดหลักทรัพย์จึงไม่อยู่ในข่ายได้รับการปล่อยตัว ส่วนคดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ไม่อยู่ในข่ายได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากต้องโทษจำคุก และยังติดเงื่อนไขต้องโทษในคดีทุจริตปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อายุยังไม่ถึง 60 ปี และต้องโทษหลายคดี อาจได้ลดวันต้องโทษ