ฟ็อกซ์คอนน์เตรียมย้ายฐานการผลิตไปไต้หวัน

ฟ็อกซ์คอนน์เตรียมย้ายฐานการผลิตไปไต้หวัน

เทอร์รี กั๊วะ ประธานบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทรับจ้างผลิตไอโฟนรายใหญ่สุดของโลก มีแผนย้ายฐานการผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมมูลค่าสูงบางส่วนออกจากจีนไปยังไต้หวันหวังหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการทำสงครามการค้า หรือผลกระทบจากกรณีพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

 ฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในนามบริษัทฮันไห่ พรีซิชั่น อินดัสตรี จะย้ายอุปกรณ์การผลิตจากโรงงานหลายแห่งในเสิ่นเจิ้นและเทียนจินไปยังเมืองเกาสง ซึ่งตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตรงข้ามช่องแคบไต้หวัน  

เมืองเสิ่นเจิ้น  เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ของกลุ่มบริษัทไต้หวัน และปัจจุบัน เมืองแห่งนี้ยังคงเป็นฐานการผลิตสำคัญของบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ที่ทำรายได้ในแต่ละปีให้กับบริษัทประมาณ 170,000 ล้านดอลลาร์

การเตรียมย้ายฐานการผลิตของฟ็อกซ์คอนน์ มีขึ้นในช่วงที่เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีน เริ่มเปิดฉากการเจรจารอบใหม่วันแรกเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันพฤหัสบดี (9พ.ค.)ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 04.00 น.ของวันศุกร์ (10พ.ค.)ตามเวลาไทย โดยการเจรจาของทั้งสองฝ่ายซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลาสองวันที่กรุงวอชิงตัน มีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงการทำสงครามการค้าระหว่างกัน

การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ เป็นอัตรา 25% จากเดิมที่อัตรา 10% โดยจะมีผลตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า

ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า จีนไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้ในระหว่างการเจรจาการค้าร่วมกับสหรัฐ จึงเป็นสาเหตุให้สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนแต่ปธน.ทรัมป์ก็กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกัน

กั๊วะ ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 69 ปี ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ให้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในไต้หวัน มีสินทรัพย์สุทธิ 7,600 ล้านดอลลาร์ ประกาศเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าจะวางมือจากงานบริหารธุรกิจ แต่จะยังคงกุมบังเหียนอยู่เบื้องหลัง เพื่อลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในปีหน้า

กั๊วะ  ผู้สนับสนุนนพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีนโยบายเป็นมิตรกับรัฐบาลปักกิ่ง กล่าวเป็นนัยกับสถานีโทรทัศน์ไต้หวันว่า หากเขาร่วมกระบวนการไพรมารีโหวตของพรรคก็จะปฏิบัติตามขั้นตอนการเสนอชื่อ และถ้าลงจริงก็ต้องนำเสนอปัญหาของไต้หวัน

“ผมรู้สึกว่าสันติภาพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ และอนาคต เป็นเรื่องสำคัญที่สุด” กั๊วะ กล่าว

กั๊วะ เตรียมลงชิงชัยกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน วัย 62 ปี จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ที่มีนโยบายไม่ไว้ใจปักกิ่ง และประกาศชัดว่า เธอจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในวันที่ 11 ม.ค.ปี 2563 โดยช่วงไพรมารีโหวตต้องแข่งกับอดีตนายกรัฐมนตรีวิลเลียม ไหล่ ผู้ชูนโยบายสนับสนุนเอกราช