ราคาเวสต์เท็กซัสพุ่งกว่า1%หลังเรือบรรทุกน้ำมันซาอุฯ2ลำถูกโจมตี
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัสพุ่งกว่า 1% ทะลุ 62 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวล หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันนอกน่านน้ำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน จากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา และยกเลิกการผ่อนผันสำหรับ 8 ประเทศในการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน
เมื่อเวลา 17.50 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.31% สู่ระดับ 62.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ราคา 71.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวเอสพีเอ ของทางการซาอุดิอาระเบียรายงานว่า มีการก่อวินาศกรรมเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำบริเวณน่านน้ำนอกเขตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะกำลังเดินทางไปยังอ่าวอาหรับ
เอสพีเอ รายงานอ้างคำพูดของนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน อุตสาหกรรม และทรัพยากรแร่ของซาอุดิอาระเบียว่า แม้เหตุโจมตีเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจะไม่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหรือน้ำมันรั่วไหล แต่ก็สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับโครงสร้างของเรือ
รัฐมนตรีประกาศว่า เหตุโจมตีนอกชายฝั่งฟูไจราห์ มีเป้าหมายที่จะบ่อนทำลายเสรีภาพการเดินเรือทางทะเลและความปลอดภัยของการขนส่งน้ำมันแก่ผู้บริโภคทั่วโลก
เอสพีเอ รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่า เรือขนส่งน้ำมัน 4 ลำได้ตกเป็นเป้าหมายของการก่อวินาศกรรมใกล้กับน่านน้ำของประเทศเมื่อเช้าวันอาทิตย์ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเรือ 4 ลำนั้นนับรวมเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำของซาอุดีอาระเบียหรือไม่
รัฐมนตรีได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ภัยคุกคามต่อความปลอดภัยและชีวิตของลูกเรือบนเรือขนน้ำมันร้ายแรงมาก และเรียกร้องให้ประชาคมโลกถือว่าเป็นความรับผิดชอบที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว