ตำรวจภูธรภาค 9 คืนโฉนดที่ดิน-ทรัพย์สินให้ประชาชน กว่า 4 ล้าน
ตำรวจภูธรภาค 9 คืนโฉนดที่ดิน-ทรัพย์สินคืนความสุขให้กับประชาชน มูลค่าความเสียหายรวม 4 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 พ.ค.62 ที่ห้องประชุมสมิหลา ชั้น 2 ตำรวจภูธรภาค 9 ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นประธานในพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินและทรัพย์สินคืนความสุขให้กับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมจำนวน 81 ราย มีโฉนดที่ดิน จำนวน 52 ฉบับ เนื้อที่ 64 ไร่ – งาน 37 ตารางวา รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 28 คัน มูลค่าความเสียหายรวม 4,060,500 บาท
ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 – 9 จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินที่ไม่เป็นธรรม โดยร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายพนักงานปกครอง เจ้าพนักงานที่ดิน ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายยุติธรรม ทหาร ร่วมมือกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อลด ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และทำให้ประชาชนมีความสุข มีการขับเคลื่อนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบทั้งการบังคับใช้กฎหมาย และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจา ไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 9สนองนโยบายรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินที่ไม่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 9 ส.ค.61 โดยร่วมกับทุกภาคส่วนเดินหน้าเจรจาไกล่เกลี่ย ทำข้อตกลงประนีประนอมและปรับโครงสร้างหนี้ ให้ความเป็นธรรมกับทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ ขณะเดียวกันได้ร่วมกันใช้มาตรการทางกฎหมายกับเจ้าหนี้นอกระบบผ่าน “ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน” สรุปผลการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.62 – 15 พ.ค.62ดังนี้จับกุมเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ 27 ราย ผู้ต้องหา 29 คน ผลการไกล่เกลี่ยสำเร็จ 61 ราย ลูกหนี้ได้รับความเสียหาย 81 คน รวมทั้งสามารถนำกลับมาซึ่งทรัพย์สินของประชาชนจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เป็นโฉนดที่ดิน จำนวน 52 ฉบับ จำนวนเนื้อที่ 64 ไร่ – งาน37ตารางวา รถยนต์ จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 28 คัน รวมมูลค่าความเสียหายรวม 4,060,500 บาท