ทูตจีนเตือนสหรัฐถูกตอบโต้หลังสั่งแบน“หัวเว่ย”
การกระทำของปธน.ทรัมป์ ถือเป็นความผิดพลาด ทำให้สิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายและผลประโยชน์ของบริษัทจีนได้รับความเสียหาย
นายจาง หมิง เอกอัคราชทูตจีนประจำสหภาพยุโรป (อียู) เตือนว่า รัฐบาลจีนอาจจะดำเนินการตอบโต้สหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ของจีน ซึ่งการกระทำของปธน.ทรัมป์ ถือเป็นความผิดพลาด ทำให้สิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายและผลประโยชน์ของบริษัทจีนได้รับความเสียหาย รัฐบาลจีนคงจะไม่นิ่งเฉยในเรื่องนี้
นายจาง กล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวของสหรัฐมีแรงจูงใจทางการเมือง และใช้มาตรการควบคุมการส่งออกอย่างไม่เหมาะสม รัฐบาลสหรัฐพยายามปิดกั้นบริษัทหัวเว่ยผ่านทางการบริหารงานของรัฐ จึงมีความเป็นไปได้ที่ทางการจีนจะใช้มาตรการปกป้องสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายและผลประโยชน์ของบริษัทจีน พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐยุติการดำเนินการที่เป็นภัยต่อจีน เพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์อันร้าวฉานระหว่างสองประเทศ
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อห้ามบริษัทของสหรัฐจากการใช้เทคโนโลยีและบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของบริษัทที่สหรัฐเชื่อว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งพุ่งเป้าอย่างชัดเจนไปที่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ของจีน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บริษัทอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลได้ระงับการทำธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ย หลังจากที่สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (บีไอเอส) ซึ่งสังกัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รวมหัวเว่ยและบริษัทในเครือไว้ในรายชื่อบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐเข้าซื้ออุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ