ญี่ปุ่นซื้อ‘เอฟ35’ล่องหน105ลำจากสหรัฐ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ที่อยู่ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ แถลงวานนี้ (27 พ.ค.) หลังหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ว่า ญี่ปุ่นตั้งใจซื้อเครื่องบินรบล่องหนเอฟ 35 ชุดใหม่จำนวน 105 ลำ ทำให้ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่มีฝูงบินเอฟ 35 มากที่สุด

ระหว่างการหารือ นายทรัมป์กดดันนายอาเบะให้แก้ปัญหาการได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐ ช่วงแถลงข่าวร่วมกันหลังประชุม ผู้นำสหรัฐระบุว่า เป้าหมายของเขาคือต้องการให้ญี่ปุ่นยกเลิกอุปสรรคทางการค้า ช่วยให้สินค้าส่งออกของสหรัฐเข้ามาแข่งขันในญี่ปุ่นได้อย่างเป็นธรรม เขาหวังว่าสองประเทศจะทำการค้าต่อกันเพิ่มมากขึ้นในเร็วๆ นี้ และทั้งสองประเทศเห็นพ้องขยายความร่วมมือส่งมนุษย์ไปสำรวจอวกาศ

“เราขาดดุลการค้ามากมายไม่น่าเชื่อ อย่างที่คุณรู้ การค้ากับญี่ปุ่นไม่สมดุลมาหลายปีแล้ว ญี่ปุ่นได้เปรียบมาก พวกเขามีนักธุรกิจที่ฉลาดมาก นักเจรจาเฉียบแหลมมาก ทำให้เราอยู่ในจุดที่ยากลำบาก แต่ผมคิดว่าเราจะทำข้อตกลงกับญี่ปุ่น”

ด้านนายอาเบะแถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องเร่งเจรจาการค้าระหว่างกัน แต่ไม่ยอมเผยถึงกรอบเวลา

นายอาเบะกับนายทรัมป์พยายามแสดงออกถึงมิตรภาพอันเหนียวแน่น แต่ยังเห็นต่างกันเรื่องนโยบายการค้าและเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดีสหรัฐเคยขู่ว่าจะขึ้นภาษีรถยนต์ญี่ปุ่น ส่วนเรื่องข้อตกลงการค้ากับจีนนั้น เขากล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันยังไม่พร้อมจะทำข้อตกลงกับปักกิ่ง แต่คาดว่าจะตกลงกันได้ในเร็วๆ นี้

“ผมเชื่อว่าเราจะทำข้อตกลงที่ดีมากกับจีนได้สักวันหนึ่ง เพราะผมไม่เชื่อว่าจีนจะจ่ายภาษีหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อไปได้ คุณรู้มั้ยภาคธุรกิจกำลังหนีออกจากจีน นับร้อยๆ นับพันๆ ราย ไปในที่ๆ ไม่โดนภาษี”

นอกจากนี้  นายทรัมป์ยังหวังว่าเกาหลีเหนือจะลดอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมย้ำว่าไม่ติดใจอะไรกับการปล่อยยิงขีปนาวุธเมื่อเร็วๆ นี้

ขณะที่นายอาเบะกล่าวว่า เขาสนับสนุนให้นายทรัมป์ติดต่อกับนายคิม จอง อึนแต่ย้ำท่าทีของรัฐบาลโตเกียวที่มองว่า การทดสอบขีปนาวุธพิสัยสั้นเมื่อเร็วๆ นี้ฝ่าฝืนข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

ในวันเดียวกันนั้น นายทรัมป์ได้พบกับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไป พร้อมกล่าวว่า เขาจะร่วมมือกับนายอาเบะนำคนเหล่านั้นกลับบ้านให้ได้

ส่วนประเด็นอิหร่าน สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า นายอาเบะกำลังพิจารณาเดินทางไปเยือนอิหร่านในเดือนหน้า เพื่อช่วยลดความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลเตหะรานกับวอชิงตัน