"กลาโหมสหรัฐ-เฟด"ขอความเป็นอิสระจากการเมือง

ในยุคที่สหรัฐมีผู้นำชื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์ ”มักมีประเด็น“ความเป็นกลาง”ทางการเมือง หรือ การเรียกร้องขอความเป็นอิสระในการทำงานให้ได้ยินเป็นระยะๆ ล่าสุดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐออกเมมโมย้ำเตือนกองทัพต้องเป็นกลางทางการเมืองหลังเกิดปมวิจารณ์ ทำเนียบขาวขอกองทัพเรือช่วยซ่อนเรือ “จอห์น แมคเคน” เพราะผู้นำไม่ปลื้ม

แพทริค ชานาแฮน รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ออกบันทึกช่วยจำ 2 ฉบับถึงบุคลากรในกระทรวงทุกคน ทั้งทหารและพลเรือนในกระทรวง และทหารที่ประจำการในต่างประเทศ เพื่อย้ำเตือนให้ดำรงรักษาธรรมชาติของกองทัพที่จะไม่ยุ่งกับการเมือง

“ทุกคนปฏิญาณตนว่าจะปกป้องและคุ้มครองรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา และภารกิจของเราในการปกป้องและพิทักษ์ประเทศชาติ คือไม่ยุ่งการเมือง”ชานาแฮน กล่าว

บันทึกช่วยจำระบุด้วยว่า กระทรวงกลาโหมมีนโยบายยาวนานสนับสนุนให้บุคลากรกองทัพ ทำหน้าที่ของพลเมือง รวมถึงอนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองบางอย่างได้ แต่ถึงอย่างนั้น นโยบายและธรรมเนียมปฏิบัติของกระทรวงกลาโหม ยังมีความชัดเจนเรื่องขีดจำกัดของกิจกรรมทางการเมืองแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือการกระทำที่บ่งถึงผู้อุปถัมภ์กระทรวง การเห็นด้วยหรือการรับรองผู้สมัคร การหาเสียงหรือเป้าหมายทางการเมือง

ชานาแฮน ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ (9มิ.ย.)ที่ผ่านมาว่า ทำเนียบขาวประสานไปยังกองเรือที่ 7 แห่งกองทัพเรือสหรัฐ ซ่อนเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส จอห์น เอส. แมคเคน ที่ฐานทัพเรือในญี่ปุ่น ให้พ้นจากสายตาของประธานาธิบดีทรัมป์ ระหว่างเยือนญี่ปุ่น เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ท้ายสุดแล้ว ไม่มีการปฏิบัติตามคำร้องขอนี้

รักษาการณ์รัฐมนตรีกลาโหม ตอบคำถามเรื่องบันทึกช่วยจำว่า สิ่งที่เขาต้องการจะทำหลังเกิดเรื่องแมคเคน คือย้ำเตือนทุกคนว่าจะไม่ทำให้กองทัพเป็นการเมือง

ทั้งนี้ แมคเคน ได้รับการยกย่องทั้งในฐานะฮีโรทหารผ่านศึกสงครามเวียดนาม และเสาหลักทางการเมือง แต่มีความสัมพันธ์ไม่ดีนักกับประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้ไม่เคยเป็นทหารรับใช้ชาติ แต่ล้อเลียนสถานะฮีโร่สงครามของส.ว.อาวุโสของรีพับลิกันท่านนี้ ขณะที่แมคเคน ก็ถอนการสนับสนุนทรัมป์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2559

ก่อนจะจากไปด้วยมะเร็งสมองในวัย 81 ปีเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แมคเคน เคยออกปากว่า ไม่ต้องการให้ทรัมป์ไปร่วมงานศพ ส่วนทรัมป์ แม้ว่าคู่ปรับจากไปแล้ว ก็ยังพูดเมื่อเดือนมีนาคมว่า เขาไม่เคยเป็นแฟนคลับของแมคเคน และจะไม่มีวันเป็น

ในส่วนของทรัมป์ ยืนยันว่าไม่เคยสั่งให้ซ่อนเรือ เพราะไม่สนใจว่าเรือพิฆาตจะมีเรือแมคเคนหรือไม่ แต่เรื่องนี้ ทำให้นึกถึง เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ที่ถูกประธานาธิบดีทรัมป์ วิจารณ์บ่อยครั้งจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วแถมหนักมือขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดข้อกังวลกันว่า เฟดอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง

ทรัมป์ ไม่ใช่แค่เรียกร้องให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังตั้งคนสนิท 2 คนไปนั่งในคณะกรรมการบริหารเฟด ทั้งสตีเฟน มัวร์ วัย59 ปี นักเศรษฐศาสตร์อดีตที่ปรึกษาทีมหาเสียงของทรัมป์ และเฮอร์แมน เคน วัย 73 ปี อดีตคณะกรรมการบริหารเฟดสำนักงานแคนซัสซิตี้ และอดีตประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เครือร้านพิซซ่า

ทำเนียบขาวไม่เคยกดดันเฟดแบบนี้เลยนับตั้งแต่ทศวรรษ 70 ตอนนั้นก่อนที่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จะลงเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2515 ซึ่งเขาเคยกดดันอาร์เธอร์ เบิร์นส ประธานเฟดให้ลดอัตราดอกเบี้ย

ทิม ดาย อาจารย์เศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออริกอน ผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารกลาง มองว่า ความเป็นอิสระของเฟดถูกสั่นคลอนมากที่สุดในรอบหลายสิบปี