สั่งล้อมคอกเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม คุมเข้มตั้งจุดตรวจสกัด
ผบ.ตร.สั่งล้อมคอกเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม ที่เมืองจันท์ พร้อมให้พื้นที่สุ่มเสี่ยงคุมเข้ม เฝ้าระวัง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด
(6 ก.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม. ธนาคารออมสิน บริเวณหน้าห้าง เทสโก้โลตัส ตลาดขลุง ถ.สุขุมวิท หมู่ที่ 1 ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี เขตพื้นที่ สภ.ขลุง ภ.จว.จันทบุรี ในวันนี้ 6 ก.ค. 62 เวลาประมาณ 02.50 น. ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเบื้องต้นได้รับรายงานจาก สภ.ขลุง ภ.จว.จันทบุรี ว่า ในวันนี้ 6 ก.ค. 62 เวลาประมาณ 02.50 น. ได้รับแจ้งเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน บริเวณหน้าห้าง เทสโก้โลตัส ตลาดขลุง ถ.สุขุมวิท หมู่ที่ 1 ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี พนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารออมสิน พบว่าถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย แต่คนร้ายไม่สามารถนําเงินในตู้เอทีเอ็มไปได้ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่า ระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง (ระเบิดประดิษฐ์เองโดยใส่พวกเศษเหล็กไว้ภายในแล้วต่อสายชนวนไว้สําหรับจุดระเบิด) ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดทําแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อจะได้สืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุมาเพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำพยานไปแล้วจำนวนหนึ่ง คงต้องรอผลตรวจของกลางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญทั้งหมดในคดีเพื่อเชื่อมโยงไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุและขออนุมัติศาลออกหมายจับ รวมถึงยังคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในการดำเนินการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับทุกกองบัญชาการให้มีมาตรการป้องกันอาชญากรรม ไม่ให้มีเหตุเกิดขึ้น มีแผนการปฏิบัติการออกตรวจในพื้นที่สุ่มเสี่ยง การทำประวัติบุคคลเฝ้าระวัง การตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกั้น ตรวจสอบอาวุธปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ อีกทั้งหากเกิดเหตุขึ้นแล้ว จะต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว และดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม