“ชวน” ซัดแต่งกายแบบไหนก็มีผลงาน หากปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องคำนึงกาลเทศะและสถานที่เป็นสำคัญ เตรียมหารือระเบียบวาระการแต่งกาย ส.ส. สัปดาห์หน้า
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กล่าวถึงกรณีส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องของให้ประธานสภาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจากประเด็นการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าทางสภาได้มีการตรวจสอบเอกสารตามขั้นตอน ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดพบว่ามีข้อผิดพลาดเพียงจุดเดียวคือจำนวนส.ส.ที่ลงชื่อมีจำนวน 101 คน ซึ่งเกินมา 1 คนเนื่องจากลงชื่อซ้ำซึ่งได้จัดส่งเอกสารไปตามกระบวนการแล้วเช่นเดียวกับกรณีคำร้องเรื่องการถือหุ้นสื่อ โดยระยะเวลาในการพิจารณาขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีส.ส.ต้องการให้ประธานสภากำหนดระเบียบข้อบังคับเรื่องการแต่งกายของสมาชิกให้ชัดเจน นายชวน ระบุว่า ข้อบังคับในเรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาในวันพุธนี้ ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อพิจารณา หลังจากนั้นประธานก็จะกำหนดลักษณะการแต่งกายซึ่งในอดีตก็มีการแต่งกายหลากหลายรูปแบบแต่ทั้งหมดต้องคำนึงถึงกาละเทศะ ความเหมาะสม ซึ่งสมาชิกเป็นผู้ใหญ่แล้วเชื่อว่าน่าจะทราบเรื่องนี้ดีว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหนจึงควรให้ความสำคัญเรื่องความประพฤติและปฏิบัติตัว
ส่วนการประชุมในครั้งนี้มีเพียงนายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคอนาคตใหม่ ผู้พิการขาข้างซ้ายที่ได้เข้ามาขออนุญาต แต่งกายโดยสวมกางเกงขาสั้นเพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นไม่ได้มีการขออนุญาต รวมถึงการขออนุญาตแต่งกายตามเพศสภาพ
อย่างไรก็ตามส่วนตัวก็สนับสนุนการแต่งกายด้วยผ้าไทยเช่น การใส่ชุดไทยพระราชทานด้วยผ้าไทยซึ่งอาจกำหนดการแต่งกายด้วยผ้าไทยในวันใดวันหนึ่งของการประชุม เพราะการประชุมยังมีการประชุมร่วมระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. และการประชุมของกรรมาธิการ
ส่วนจะให้กลับมาใส่สูทสากลหรือไม่ในช่วงระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อบังคับแต่ตามปกติแล้วส.ส.ชาย ก็สวมสูทปกติมีเพียงส.ส.หญิงบางคนที่มีความหลากหลาย
ขณะที่มีบางคนระบุว่าขอให้มองที่ผลงานมากกว่าการแต่งกาย นายชวน ยังย้ำว่า กาลเทศะเป็นสิ่งสำคัญและผลงานก็ต้องมี อีกทั้งไม่ว่าจะแต่งกายแบบใด หากปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องมีผลงาน แต่การเคารพสถานที่และกาลเทศะเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ