'น้าแอ๊ด' แต่งเพลง 'เอาไงดีครับพี่ตู่' ถามนายกฯ เรื่องแบนสารพิษเกษตร

"แอ๊ด คาราบาว" แต่งเพลง "เอาไงดีครับพี่ตู่" ถาม นายกฯ เรื่องแบนสารพิษเกษตร

เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-Pan) ได้โพสต์เพลงใหม่ที่แต่งและร้องโดยนักร้องนักแต่งเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ยืนยง โอภากุล หรือ น้าแอ๊ด คาราบาว ในเฟซบุ๊กเพจของเครือข่าย โดยเนื้อความตอนหนึ่งเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดังนี้

"คนไทยยังตายผ่อน เพราะภาครัฐยังปักธงให้ใช้สารพิษอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเสต ต่างประเทศเขาเลิกใช้ แต่เมืองไทยกลับยิ่งใช้ เพิ่งจะรู้กินผักผลไม้ ยิ่งกินก็ยิ่งตาย เอาไงดีครับพี่ตู่"

ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางน๊าแอ๊ดได้ร่วมอบรมการสกัดน้ำมันกัญชาทางการแพทย์พื้นบ้านกับอาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ และได้แต่งเพลง “มหัศจรรย์กัญชา” เพื่อช่วยเผยแพร่ความรู้เรื่องกัญชาทางการแพทย์ในระหว่างการรณรงค์ของมูลนิธิและเครือข่ายในช่วงสองถึงสามเดือนที่ผ่านมา ทางอาจารย์เดชาได้มีการพูดคุยเปรยกับน้าแอ๊ดว่า นอกจากประเด็นเรื่องกัญชาแล้ว เรื่องสารพิษเกษตรก็มีความสำคัญที่ต้องช่วยกันผลักดัน และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้น้าแอ๊ดคิดแต่งเพลง “เอาไงดีครับพี่ตู่”

ปรกชล กล่าวว่า ด้วยภาษาและทำนองที่เรียบง่ายของเพลงเพื่อชีวิตสไตล์น้าแอ๊ด ทำให้คนฟังสามารถเข้าถึงและเข้าใจเรื่องสารพิษเกษตรได้ง่ายขึ้น มีส่วนช่วยกระตุ้นความตระหนักของคนทั่วไปเรื่องสารพิษเกษตรได้อีกทางหนึ่ง

ปรกชล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทางทีมงานกำลังจัดทำมิวสิควีดีโอและเตรียมเผยแพร่ภายในอาทิตย์หน้า

การรณรงค์ให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีเกษตรบางชนิดมีมาต่อเนื่องนานกว่า 20 ปีในสังคมไทยและมักกินเวลานานในการพิสูจน์ข้อเรียกร้องจนกระทั่งสามารถผลักดันให้รัฐประกาศยกเลิกการใช้สารเคมีเกษตรชนิดนั้นๆ

ล่าสุด เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชน 686 องค์กร รวมทั้งเครือข่ายฯ ได้รณรงค์ต่อต้านการใช้สารเคมีเกษตร พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเสต และเรียกร้องรัฐบาลให้ยกเลิกการใช้สารเหล่านี้ โดยเฉพาะพาราควอตที่พบว่ามีอันตรายต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการวัตุถุอันตราย ได้มีการประชุมพิจารณาทบทวนมติของคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับการควบคุมสารเคมีพาราควอตในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีมติยังไม่ยกเลิกการใช้สารดังกล่าว แต่มีมติสนับสนุนมาตรการ”จำกัดการใช้” ที่กรมวิชาการเกษตรจะดำเนินการอย่างเข้มงวดแทน

โดยกรมวิชาการเกษตรได้เสนอร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำนวน 5 ฉบับซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ในการจำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด อาทิ การอบรมเกษตรกร การขึ้นทะเบียนขอรับสิทธิ์การใช้สารเคมี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน หรือในช่วงเดือนตุลาคมนี้