ผ่าเกมสภา! รัฐบาลVSฝ่ายค้าน

โดย “7พรรคฝ่ายค้าน” ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคพลังปวงชนไทย ประชุมวางเกมคู่ขนาดทั้งในสภา-นอกสภา

เกมในสภาตั้ง “วิปฝ่ายค้าน” เพื่อประสานงานการทำงานให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน โดยวางเกมยื่นกระทู้ถามสด “รัฐบาล” ในทุกสัปดาห์ เน้นเป้าไปที่ “รัฐมนตรี” ที่อยู่ในกระแสข่าว หรือ “รัฐมนตรีสายล่อฟ้า" เพื่อขยายแผนเก็บแต้มเข้ากระเป๋าไปเรื่อยๆ

หลังจากนั้นวางเป้า 6 เดือน ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจการทำงานของรัฐบาล หากมี “รัฐมนตรี” คนใดบริหารงานส่อไปในทางทุจริตก็จะโดนลากมา “ซักฟอก” ทันที เน้นไปรัฐมนตรีที่ทาง พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ค่อยแฮปปี้ หวังเสี้ยมให้การโหวตของ พรรคร่วมรัฐบาล เสียงแตก

ส่วนเกมนอกสภาเริ่มเดินหน้าเก็บแต้มจากภาคประชาชน โดยเฉพาะ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินสายเป็นว่าเล่น เน้นหนักไปที่ภาคเหนือ-ภาคอีสาน เพื่อสะสมกำลังพลเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น แม้ตัวของ ธนาธร สุ่มเสี่ยงที่จะติดโทษทางการเมือง จากพิษถือหุ้นสื่อ แต่จำเป็นต้องเคลื่อนไหว เพื่อช่วงพรรคส้ม-พรรคแดงในระยะยาว

จุดอ่อนของ “7พรรคฝ่ายค้าน” คือไม่มีตัวเก๋าเกมอยู่ในสภา ส่งผลให้การตรวจสอบ-อภิปราย อาจจะไม่เข้มข้นมากพอ ที่สำคัญทั้ง “7พรรคฝ่ายค้าน” ยังติดหล่ม-ติดกับดักตัวเอง โจมตีประเด็น สืบทอดอำนาจ-เผด็จการ ซึ่งอาจจะเข้าทาง “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่เร่งงานช่วยเหลือประชาชน

ฝั่ง “พรรคร่วมรัฐบาล” โดยเฉพาะพรรคพปชร. พยายามรีแบรนด์ใหม่ ชงให้ “ส.ส.พปชร.” เล่นเกมคนดี ชูประเด็นปราศรัยให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ทุกประเด็นที่พูดในสภาจะถูกหยิบไปสานงานต่อ เพื่อให้ประชาชนเห็นภาพรวมการทำงาน

หากโดน “7พรรคฝ่ายค้าน” โจมตีเกี่ยวกับการใช้อำนาจ ก็จะถูกบลั๊ฟกลับด้วยการช่วยเหลือประชาชน แถมจะเน้นย้ำให้ “ส.ส.” ลงพื้นที่ในวันที่ไม่ประชุมสภาทุกวัน

จากนี้วัดกันว่าศึกสภาที่ “พรรคร่วมรัฐบาล” เปลี่ยนเกมมาเน้นการช่วยเหลือประชาชน กับ “7พรรคฝ่ายค้าน” ที่ยังติดหล่มสืบทอดอำนาจ-เผด็จการ ใครจะเข้าวินเก็บแต้มได้มากกว่ากัน