ผลผ่าซากชี้ลูกพะยูนลิบงตายเฉียบพลัน รอตรวจสอบเพิ่ม
ผลผ่าซากชี้ลูกพะยูนลิบงตายเฉียบพลัน รอตรวจสอบเพิ่ม ส่วนพะยูนตัวเต็มวัยที่พบที่เกาะพีพีคาดตายโดยธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 16 ก.ค.62 นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง ได้รายงานวันนี้ว่า ได้รับผลการชันสูตรลูกพะยูนที่พบเกนตื้นตายเมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม บริเวณแหล่งอนุบาล “มาเรียม” ลูกพะยูนกำพร้าที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก
โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน แจ้งผลชันสูตรจากทีมสัตวแพทย์เข้ามาว่า ลูกพะยูน มีความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับปกติ แต่ซากเน่าแล้ว มีลำไส้ทะลักออกมาจากช่องเพศและช่องก้น และมีรอยช้ำรอบโคนหาง เมื่อเปิดดูกล้ามเนื้อพบรอยช้ำ ซึ่งบ่งชี้ว่ามาจากการถูกรัดก่อนเสียชีวิต
ส่วนอวัยวะภายในเสื่อมสภาพ ไม่สามารถระบุความผิดปกติที่ชัดเจนได้ กระเพาะอาหารมีหญ้าทะเลและคราบนมอันแน่นภายในกระเพาะอาหารบ่งชี้ถึงความสามารถกินได้ตามปกติ ทีมสัตวแพทย์สันนิษฐานถึงสาเหตุการตายของลูกพะยูนว่า มาจากการเสียชีวิตเฉียบพลัน ไม่พบการป่วยตายตามธรรมชาติ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างผิวหนังเพื่อนำไปตรวจทางพันธุกรรม และเก็บตัวอย่างอาหารในกระเพาะอาหารเพื่อตรวจสอบชนิดของหญ้าทะเล ต่อไป
ส่วนซากพะยูนตัวเต็มวัยที่ถูกพบในวันเดียวกัน ที่บริเวณเกาะพีพีห่างจากเกาะไผ่ประมาณ 20 กิโลเมตร ทางศุนย์วิจัยฯ แจ้งว่า มีสภาพซากสด มีความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับปกติ มีรอยถลอกและรอยแดดไหม้ที่หลังซึ่งสามารถพบได้ในพะยูนธรรมชาติ ที่บริเวณโคนใบพายทั้งสองข้างมีรอยแผลรัดลึกแต่แผลสมานแล้ว และพบแผลจากการเกยตื้นเป็นรอยแผลถลอกข้างลำตัว ส่วนของเขี้ยวพบว่ามีการสึกจากสภาพการใช้งาน
จากการตรวจสอบความผิดปกติของอวัยวะภายในพบว่า ภายในช่องท้องอักเสบมีหนองคั่งในช่องท้องประมาณ 100 มล. ส่วนของลำไส้มีภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง และมีพังผืดพันยึดบริเวณส่วนของลำไส้เล็ก และมีเนื้อตายร่วมด้วยบริเวณดังกล่าว กระเพาะอาหารมีหญ้าทะเลที่ไม่ได้รับการย่อยและมีกลิ่นเหม็น หัวใจมีภาวะล้มเหลวและม้ามมีการแสดงถึงการติดเชื้อเรื้อรัง
ทีมสัตวแพทย์สันนิษฐานว่า สาเหตุการตายอาจมาจากการป่วยตายธรรมชาติ จากภาวะการณ์ติดเชื้อในช่องท้องและภาวะลำไส้อักเสบรื้อรัง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บตัวอย่างผิวหนังเพื่อนำไปตรวจทางพันธุกรรม และเก็บตัวอย่างอาหารในกระเพาะอาหารเพื่อตรวจสอบชนิดหญ้าทะเลต่อไป