‘ชางงี’ รับมือห้างสนามบินเอเชียแข่งดุ
สนามบินชางงีของสิงคโปร์และฮับการบินทั่วเอเชียเร่งสร้างศูนย์การค้าเพื่อเพิ่มรายได้ นอกเหนือจากการขยายรันเวย์และโครงสร้างพื้นฐานการบินอื่นๆ
เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานวานนี้ (22 ก.ค.) ว่า สนามบินชางงีเผชิญกับการแข่งขันดุเดือดจากบรรดาฮับการบินระดับภูมิภาคแห่งอื่น ๆ เช่น สนามบินนานาชาติฮ่องกง ซึ่งอาศัยรายได้หลักจากผู้โดยสารชาวจีน ศูนย์รวมธุรกิจและความบันเทิง “สกายซิตี” ของสนามบินฮ่องกง ยังรวมถึงโรงแรมที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2563 และศูนย์การค้าที่เตรียมเปิดให้บริการหลังปี 2565
นอกจากนั้น การเปิดสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าให้มีการสัญจรได้เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งเชื่อม 2 เขตปกครองพิเศษของจีนเข้ากับเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ยิ่งทำให้ฮ่องกงมีบทบาทมากขึ้นในฐานะประตูสู่จีนแผ่นดินใหญ่และแหล่งกาสิโนยอดนิยม
ขณะที่สนามบินต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ร่วมวงแข่งขันด้วยเช่นกัน อย่างบริษัทร่วมทุนระหว่างผู้ดำเนินการสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียกับ“มิตซุย ฟูโดซัง”บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นได้ขยายห้างสรรพสินค้าของตนที่อยู่ใกล้กับสนามดังกล่าว
เมื่อเดือน เม.ย. ชางงีได้เปิดตัวศูนย์รวมธุรกิจ ความบันเทิง และสวนธรรมชาติในร่มชื่อ “จีเวล” โดยใช้งบก่อสร้างถึง 1,240 ล้านดอลลาร์
สนามบินชางงีมีจุดดึงดูดอื่น ๆ นอกเหนือจากประสบการณ์ในสนามบินที่ได้มาตรฐาน ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้ำและสวนดอกทานตะวันใกล้กับประตูขึ้นเครื่อง แนวคิดนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้โดยสารให้มาต่อเครื่องผ่านสิงคโปร์มากขึ้น ซึ่งมีตลาดการบินภายในประเทศขนาดเล็ก
ด้วยเหตุที่การแวะพักต่อเครื่องเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ จีเวลจึงเป็นไม้เด็ดล่าสุดของสนามบินชางงีในการผงาดเป็นผู้นำในสนามแข่งขัน
แม้ความต้องการสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินในเอเชียกำลังเติบโต แต่สภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (เอซีไอ) ระบุว่ารายได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์และไม่เกี่ยวกับการบินจะกลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับการลงทุนสนามบินในอนาคต
“สนามบินหลายแห่งทั่วโลกเริ่มให้บริการด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากบริการที่มีประสิทธิภาพต่อผู้โดยสารเพียงอย่างเดียวประสบการณ์ของผู้โดยสารถือเป็นหัวใจสำคัญของเรา” นายเจย์สัน โก๊ะ กรรมการผู้จัดการบริษัทชางงี แอร์พอร์ต กรุ๊ป กล่าวเมื่อเดือน เม.ย.