แถลงจับคนร้ายฉายา 'จ่าแมน' อ้าง คนสนิท ผบ.ตร.
แถลงจับ "จ่าแมน" ตร.เก๊ อ้างคนสนิท ผบ.ตร.วิ่งแต่งตั้งโยกย้าย-เคลียร์คดี หลอกเหยื่อ
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น.พร้อม พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมแถลงการจับกุม นายสายัณ หรือแมน ปิมปาตัน อายุ 41 ปี ชาว จ.น่าน บุคคลที่อ้างตัวเป็น “จ่าแมน คนสนิท ผบ.ตร.” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่472/2558 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม2558 ต้องความผิดฐาน “กรรโชกทรัพย์” พร้อมของกลาง เครื่องแบบตำรวจยศดาบตำรวจ,อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืน 32 นัด,รถยนต์โตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน 1 กว 6771 กทม. โดยจับกุมได้คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้อ้างตัวว่าตนเองเป็นอดีตตำรวจ ทำงานในบ้านของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สามารถวิ่งเต้นโยกย้ายซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจหรือเคลียร์คดีต่างๆ เพื่อเอาผลประโยชน์กับผู้ที่หลงเชื่อหลายราย กระทั่งฝ่ายข่าวสืบทราบข้อมูลคนร้าย และสามารถนำกำลังจับกุมตัวได้ดังกล่าว โดยต่อจากนี้จะขยายผลถึงตัวผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 3 ราย ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยืนยันว่า ไม่สามารถมีผู้ใดวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งหรือช่วยเหลือคดีได้ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งนั้นมีหลักเกณฑ์และระเบียบชัดเจน หากมีผู้ใดอ้างว่าเป็นคนรู้จักหรือสนิทกับ ผบ.ตร.สามารถร้องเรียนกับตำรวจได้
ขณะที่นายสายัณ กล่าวอ้างว่า ตนเคยทำงานขับรถให้กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร ต่อมาตนมีคดีในชั้นศาลและว่างงาน แต่ระหว่างที่ได้ทำงาน ได้รู้จักกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และตำรวจอีกหลายนายในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จนเมื่อการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการตำรวจวาระสารวัตร ถึงรองผบก. ที่ผ่านมา มีนายหน้าเป็นตำรวจนายหนึ่งติดต่อประสานมาให้ทำเรื่องวิ่งเต้นตำรวจ ประมาณ 2-3 นาย ตนได้เงินมา 4-5 แสนบาท และนำไปใช้จ่ายทั่วไป ส่วนเครื่องแบบตำรวจนั้น ก็สั่งตัดเอง แต่เอาไว้ติดรถยนต์เวลาไปไหนมาไหนเท่านั้นเพราะตนยังมีคดีติดตัว ขณะที่อาวุธปืนก็ไปซื้อมาจากจ.ลพบุรี อย่างไรก็ตาม ตนกราบขอโทษ ผบ.ตร. ยืนยันว่า ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวทั้งสิ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีเครื่องวิทยุโดยผิดกฎหมาย” และความผิดเกี่ยวกับเครื่องแบบตำรวจ ส่งพนักงานสอบสวน ส่วนผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวง สามารถแจ้งความดำเนินคดีในพื้นที่เกิดเหตุได้ สำหรับตัวผู้ต้องหาขณะนี้จะนำไปฝากขังที่ สน.พหลโยธิน ก่อนส่งตัวดำเนินคดียังศาลอาญา ถ.รัชดาฯ ในเช้าวันพรุ่งนี้