รวบ 'ช่างแอร์' ดอดเข้าบ้านลูกค้าสาวกลางดึก
ตำรวจกองปราบรวบ "ช่างแอร์" สายย่องดอดเข้าบ้านลูกค้าสาวกลางดึก อ้างหวังทำให้แอร์พังให้เรียกมาซ่อมอีก
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ สว.กก. 2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายขวัญ หรือ “ช่างขวัญ พระประแดง” หาราวี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จพ 35/2556 ลงวันที่ 31 มกราคม 2556 ข้อหา “บุกรุกเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืน” โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 6 แยก 1-4 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2560 เวลา 03.00 น. ผู้ต้องหาได้แอบเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ขณะผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงนอนหลับพักผ่อนภายในห้อง จากนั้นผู้ต้องหาได้สับสวิตซ์ไฟที่บันไดทางขึ้นจนไฟดับทั้งหลัง ผู้เสียหายจึงเดินลงไปสับสวิตซ์ขึ้นแล้วกลับขึ้นมานอน ต่อมาได้ยินเสียงผิดปกติจึงลืมตาดูพบว่ามีคนนอนอยู่ข้างเตียง จึงร้องโวยวายแล้ววิ่งหนีออกจากห้อง
อย่างไรก็ตามผู้เสียหายจำได้ว่าคนที่อยู่ในห้องคือนายขวัญ ช่างที่เคยจ้างมาซ่อมเครื่องปรับอากาศที่ห้องของตนเอง จึงได้ไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัว ก่อนที่นายขวัญจะได้ประกันตัวแล้วหลบหนี ศาลจังหวัดสมุทรปราการจึงได้ออกหมายจับ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวน นายขวัญ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยช่วงนั้นเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงได้แอบเข้าบ้านผู้เสียหาย โดยรู้ช่องทางการเข้าออกเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยมาซ่อมเครื่องปรับอากาศในช่วงกลางวัน พอถึงกลางคืนจะแอบเข้ามาในบ้านของผู้เสียหาย เดินไปสับสวิตซ์ไฟฟ้าให้ไฟดับทั้งบ้าน เมื่อผู้เสียหายเดินออกจากห้องนอนลงไปสับสวิตซ์ไฟ ก็จะแอบเข้าห้องไปทำให้เครื่องปรับอากาศลัดวงจร เพื่อให้ผู้เสียหายติดต่อให้ตนกลับมาซ่อมอีก ทั้งนี้หลังจากได้ประกันตัวก็ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่กับภรรยาโดยยังประกอบอาชีพเป็นช่างแอร์ ร่วมกันกับเพื่อน รับติดตั้ง ซ่อม และล้างแอร์แต่ก็มาถูกตำรวจกองปราบจับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมาเพิ่งได้รับการประกันตัวจากศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหา “กระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดสมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป