เผย5เขื่อนใหญ่ 23เขื่อนกลาง ของโคราชเหลือน้ำใช้เฉลี่ย25%

เผย5เขื่อนใหญ่ 23เขื่อนกลาง ของโคราชเหลือน้ำใช้เฉลี่ย25%

5 เขื่อนใหญ่ 23 เขื่อนขนาดกลางโคราช เหลือน้ำใช้เฉลี่ย 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ต้องช่วยกันประหยัดน้ำ ส่วนประปาภูมิภาค 4 สาขา ดูแล 5 อำเภอ วิกฤติหนัก เหลือน้ำดิบผลิตประปาได้ไม่เกิน 20 วัน


นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา พบว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคอง เมื่อวานนี้ มีน้ำฝนไหลเข้าอ่าง 1,037 มิลลิเมตร ทำให้ปริมาตรน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 345.91 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 28.43 % โดยเป็นน้ำใช้การได้ 278.43 ลูกบาศก์เมตรหรือ 24.58 %

ส่วนอ่างเก็บน้ำมูลบน เหลือปริมาตรน้ำ 35.97 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 25.51 % เป็นน้ำใช้การได้ 278.43 ลูกบาศก์เมตรหรือ 24.58 % , อ่างเก็บน้ำลำแชะ เหลือปริมาตรน้ำ 71.90 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 26.41 % เป็นน้ำใช้การได้ 64.90 ลูกบาศก์เมตรหรือ 24.21 % ,ส่วนอ่างเก็บน้ำลำนางรอง เหลือปริมาตรน้ำ 24.06 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 19.82 % เป็นน้ำใช้การได้ 20.61 ลูกบาศก์เมตรหรือ 17.41 %

และอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เหลือปริมาตรน้ำน้อยสุดแค่ 22.82 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 14.72 % เป็นน้ำใช้การได้เพียง 22.10 ลูกบาศก์เมตรหรือ 14.32 % เท่านั้น ขณะที่ปริมาตรน้ำคงเหลือในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาตรน้ำคงเหลือรวม349.939 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 28.76 % เป็นน้ำใช้การได้ 287.46 ล้าลูกบาศก์เมตร หรือ 24.90 %

ทั้งนี้ สถานการณ์ภัยแล้งปัจจุบันของจังหวัดนครราชสีมา พบว่า มี 15 อำเภอ 29 ตำบล 51 หมู่บ้าน ที่เป็นหมู่บ้านเป้าหมายต้องแจกจ่ายน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา ,คง,โนนสูง,ลำทะเมนชัย,ปักธงชัย,จักราช ,ห้วยแถลง,สูงเนิน,สีคิ้ว ,พิมาย,ประทาย,ครบุรี,หนองบุญมาก,ด่านขุนทด และอำเภอชุมพวง ส่วนการประปาส่วนภูมิภาคที่มีแหล่งน้ำดิบผลิตประปาได้เกิน 100 วัน ได้แก่ ประปาส่วนภูมิภาคสาขานครราชสีมา ,ปากช่อง,สีคิ้ว,ปักธงชัย,โชคชัย และชุมพวง ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค 3 แห่ง คาดว่าจะประสบปัญหาขาดน้ำดิบผลิตประปา ได้แก่ สาขาพิมาย รับผิดชอบ อำเภอห้วยแถลง และอำเภอคง โดยปริมาณน้ำในลำน้ำมูลลดระดับลง จึงคาดการณ์ว่า จะสูบได้อีกประมาณ 35 วันเท่านั้น ส่วนลำน้ำเค็ม ก็มีระดับต่ำกว่าบ่อชักน้ำดิบ จึงคาดการณ์สูบได้ประมาณ 20 วัน ส่วนอ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ก็แห้งหมด ต้องสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยหินลาดและสระบนอ่างเก็บน้ำสำรองไปช่วย สามารถใช้น้ำได้ 15 วัน ขณะที่สาขาอำภอคง อ่างเก็บน้ำห้วยตะคร้อแห้งหมด ต้องสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำบ้านหนองแขมของเทศบาลตำบลคง มาช่วย และต้องเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม

ส่วนที่สาขาด่านขุนทด รับผิดชอบอำเภอด่านขุนทด สามารถสูบน้ำดิบมาใช้ได้โดยตรง เพราะอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ปริมาณน้ำน้อยมาก ต้องติดตั้งเครื่องสูบทอยน้ำหลังประตูเขื่อนเข้ามาช่วย และประสานโครงการชลประทานนครราชสีมา ทำแบบขุดลอกอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรคอนบน ประมาณ 5 แสนลูกบาศก์เมตร เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้อย่างเพียงพอ ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค สาขาโนนสูง รับผิดชอบอำเภอโนนสูง จะสูบน้ำดิบจากลำน้ำมูลเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ สูบได้เพียง 10 วันเท่านั้น ต้องสูบน้ำดิบจากสระบิง ตำบลบิง เข้ามาช่วย และประสาน อปท.สูบน้ำจากบึงกลอและสระดอนทราย แหล่งน้ำดิบสำรองเข้ามาช่วย

ด้านศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต นครราชสีมา ได้จัดสรรงบประมาณมาเป่าล้างบบ่อบาดาลให้11 อำเภอ 22 ตำบล 79 หมู่บ้าน รวม 130 บ่อ ซึ่งเมื่อเป่าล้างเสร็จได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบประปาหมู่บ้าน-ถังน้ำกลางและบาดาลหัวโยก ทำให้ประชาชน 8,973 ได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย สถานการณ์ฝนแล้ง รวม 6 อำเภอ 28 ตำบล 1 เทศบาลตำบล และ 243 หมู่บ้าน ส่วนการประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน “ฝนแล้ง” ได้รับรายงานพืชผลเกษตรเสียหายโดยสิ้นเชิง 2 อำเภอ คืออำเภอครบุรี และอำเภอพะทองคำ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทุกอำเภอและสำนักงานเกษตรอำเภอ สำรวจความเสียหานตามหลักเกณฑ์จากสถานการณ์ภาวะฝนแล้ง กรณีนาข้าวแห้งตายหรือพืชผลเกษตรเสียหายโดยสิ้นเชิง และให้รายงานเหตุด่วนเพื่อประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินกรณีฝนแล้งตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ เพื่อดำเนินการชดเชยให้กับเกษตรกรตามมาตรการต่างๆโดยเร็ว