วิป รบ.สั่ง ส.ส.ยึดมติ ห้ามแตกแถว แม้สงวนคำแปรญัตติ แก้ปมเสียงปริ่มน้ำ ด้าน “ชินวรณ์”มั่นใจเสียงโหวต กม.-วาระสำคัญ ไม่มีปัญหา เหตุเดิมพัน “รบ.” อยู่รอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เป็นประธานการประชุมวิปรัฐบาล ที่รัฐสภา โดยมีวาระสำคัญ คือการหาแนวทางบริหารจัดการเสียงลงมติในที่ประชุมสภาผู้แทนรษฎร หลังจากที่การประชุมสภาฯ นัดที่ผ่านมา เสียง ส.ส.ฝั่งรัฐบาล แพ้โหวตส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ระหว่างการลงมติร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อที่9 ว่าด้วยการทำหน้าที่และอำนาจของประธานสภาฯ
หลังการหารือดังกล่าว นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะรองกรรมการวิปรัฐบาล บอกว่า ได้วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว และมั่นใจว่าในการประชุมสภาฯ วาระกฎหมายหรือญัตติที่สำคัญ จะไม่เกิดเหตุการณ์แพ้โหวตเหมือนที่ผ่านมา เพราะหากแพ้เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ โดยวิธีการ คือ จะมีการประชุมวิปรัฐบาล ทุกวันจันทร์ เวลา 14.00 น. เพื่อให้รัฐมนตรีรับทราบความเห็นและชี้แจงรายละเอียดที่สำคัญ ขณะที่ วิปรัฐบาลที่มี ส.ส.ของแต่ละพรรค จะร่วมพิจารณาด้วยเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันในรายละเอียดของรางกฎหมาย รวมถึงเพื่อให้การลงมติไม่เกิดความสับสน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าผลลงมติในร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ9 ที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อยและเสียงข้างมาก ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือบทเรียนที่วิปรัฐบาลต้องนำไปพิจารณาเพื่อแก้ปัญหาและทำให้การประชุมต่อไปมีเอกภาพ ส่วนกรณีของ ส.ส.พรรคเล็ก จำนวน 10 พรรคการเมืองนั้น เบื้องต้นอาจมีปัญหาเฉพาะนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศิวิไลย์ เพียงคนเดียว
ทางด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะโฆษก วิปรัฐบาล กล่าวยืนยันว่า ส.ส.รัฐบาลไม่ได้แพ้โหวตในที่ประชุมสภาฯ เพราะเป็นเรื่องของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างกมธ.เสียงข้างมาก และเสียงข้างน้อย ทั้งนี้ยอมรับว่าเสียงโหวตที่ห่างเพียง 1 เสียงนั้น มีปัญหามาจากหลายส่วน คือ การประสานงานระหว่างส.ส.ร่วมรัฐบาล เนื่องจากพบว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่สงวนคำแปรญัตติ เช่น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ลงมติเห็นสวนทางกับรัฐบาล เพราะได้สงวนคำแปรญัตติให้แก้ไขเนื้อหา ดังนั้นในครั้งต่อไปอาจต้องขอความร่วมมือส.ส.พรรครัฐบาลที่สงวนคำแปรญัตติให้ยึดตามมติของวิปรัฐบาล เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ, ปัญหาของระบบลงคะแนนเสียงที่ประมวลผลผิดพลาดและไม่แม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจะได้ตรวจสอบและทดสอบระบบอีกครั้ง, ขยายเวลาการออกเสียงลงคะแนน เนื่องจากเสียงเรียกให้เข้าห้องประชุมมีปัญหาไม่ทั่วถึงภายในอาคาร รวมถึง ส.ส. บางคนไม่เข้าใจคำถามที่ให้ลงมติ จึงลงมติสับสน
“ผมมองว่าเรื่องให้ ส.ส.ปฏิบัติตามมติของวิปรัฐบาล นั้น เป็นคนละเรื่องกับการใช้เอกสิทธิ์ส.ส.สภา ที่จะลงมติได้อย่างอิสระ เพราะคือการรักษาวินัยและเอกภาพของคะแนนเสียง เหมือนกับตอนที่ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี แม้ส.ส.บางพรรคไม่เห็นด้วยแต่ต้องเคารพมติพรรคเป็นต้น ดังนั้นการทำงานร่วมกันต้องอาศัยความร่วมมือ” นายอัครเดช กล่าว