'ฟิล์ม' นำทัพอดีตผู้สมัครหลายพรรค เปิดตัวสมัครสมาชิก 'เพื่อไทย'
"ฟิล์ม รัฐภูมิ" นำทัพอดีตผู้สมัครหลายพรรค เปิดตัวสมัครสมาชิก "เพื่อไทย" ลั่นไม่กังวลถูกวิจารณ์ประเด็นการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรคเพื่อไทย ที่ช่วงเช้าวันนี้ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม นักแสดง พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์ อดีตเลขาธิการพรรคภาคเครือข่ายไทย, นายณัฐพงษ์ รอบคอบ อดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต พรรคพลังท้องถิ่นไท เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมีประธานยุทธศาสตร์พรรคคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ , เลขาธิการพรรค น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ,รองเลขาธิการจิรายุ ห่วงทรัพย์/ และ หัวหน้ากลุ่มเพื่อไทยพลัส จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ให้การต้อนรับ
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่าพรรคเพื่อไทยได้รับเกียรติ จากนายฟิล์ม รัฐภูมิที่เล็งเห็นว่าเพื่อไทยเป็นเครื่องมือ ในการจะใช้ความสามารถ พัฒนาบ้านเมืองโดยผ่านพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ทราบว่านายฟิล์ม และทีมงาน มีความสามารถเกี่ยวกับเรื่องมีเดีย เงินสุกลดิจิตอล และการค้าขายออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในโลกสมัยใหม่ โดยกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะเข้ามาเติมเต็มส่วนต่างๆของพรรคเพื่อไทย ที่จะเชื่อมพื้นฐานในโลกปัจจุบันไปสู่อนาคต
ด้าน นายรัฐภูมิ บอกว่า อุดมการณ์ของตัวเองยังคงชัดเจนเสมอในเรื่องของการอยากเห็นประเทศพัฒนา โดยครั้งนึงได้เคยอยู่ในพรรครัฐบาลคือพรรคพลังท้องถิ่นไทย ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต จากนั้นเมื่อออกมา ก็มองว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่จะตอบโจทย์ อุดมการณ์ของตัวเอง และเป็นพรรคที่มีหลักการบริหารที่ครบด้วยคนทุกกลุ่ม ทุกวัย นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันเรื่องของสตาร์ทอัพ ซึ่งตรงกับแนวความคิดของตัวเอง
เมื่อถามถึงความกังวลเมื่อเข้าสู่พรรคเพื่อไทยอาจทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทางประเด็นการเมือง นายรัฐภูมิ ตอบว่าความกังวลใจได้หมดไปตั้งลงสนามการเมืองแล้ว ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตอบว่าสิ่งที่ได้เสนอนั้นตอบโจทย์หรือไม่ และเชื่อว่าทุกวันนี้การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายได้หมดไปแล้ว ย้ำว่าไม่มีความกังวล เพราะเคยผ่านมาตั้งแต่วงการบันเทิง
ส่วนจุดยืนยังเหมือนเดิมคือไม่เเสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง และตั้งแต่วันแรกที่เข้าการเมืองก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่จำเป็นต้อง เพียงแต่ต้องการ พื้นที่และโอกาสในการรับใช้ประชาชน พร้อมย้ำว่าการที่ออกมาจากพรรคพลังท้องถิ่นไทย ไม่มีปัญหาความขัดเเย้ง ยังคงเคารพ คณะผู้บริหารพรรคพลังท้องถิ่นไทยอยู่เสมอ และการที่ออกมานั้นเป็นเรื่องจุดยืนของประชาธิปไตยที่แตกต่างกัน