'อนุทิน' ย้ำผู้ป่วยพบรพ.เอกชน คิดค่ารักษาแพง ต้องไม่ไปใช้บริการ

'อนุทิน' ย้ำผู้ป่วยพบรพ.เอกชน คิดค่ารักษาแพง ต้องไม่ไปใช้บริการ

สมาคมรพ.เอกชนเข้าพบ “อนุทิน” หวังช่วยประสานพาณิชย์เรื่องคุมค่ารักษา ขณะที่รมว.สธ.กำชับอย่าคิดค่ารักษาแพงเกินไป กำหนดราคาเป็นธรรม ส่วนผู้บริโภคต้องสำรวจราคาก่อนเข้ารับการรักษา แพงเวอร์ไม่ต้องไปใช้บริการ

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข สมาคมรพ.เอกชน นำโดย นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมรพ.เอกชน พร้อมด้วย นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช อดีตนายกสมาคมฯ และกรรมการสมาคมจำนวนหนึ่ง เดินทางมาเข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เพื่อมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่ง และอวยพรให้ปฏิบัติภารกิจทั้ง 2 ตำแหน่งสำเร็จลุล่วงทุกประการ ทั้งนี้ จากการสอบถามกรรมการสมาคมรพ.เอกชน ก่อนเข้าร่วมประชุม ระบุว่าจะมีการขอให้นายอนุทินช่วยประสานกระทรวงพาณิชย์อย่าให้เข้ามาลำบากในการออกกฎกติกาควบคุมการดำเนินการของรพ.เอกชน อยากให้ควบคุมเป็นไปตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559



นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่า ได้มีการหารือเรื่องการคุมค่ารักษาพยาบาลในรพ.เอกชน โดยสมาคมฯ ได้อธิบายให้ฟังถึงภารกิจของรพ.เอกชน ว่าต้นทุนในการดำเนินการเป็นอย่างไร ซึ่งยาก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา ที่มีต้นทุน ทั้งต้นทุนการเก็บรักษา ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น ที่ผ่านมาไม่ได้มีการคิดเกินจากที่กฎหมายกำหนด คนที่เข้ามารับบริการในรพ.เอกชยินดีจ่ายเพราะต้องการคุณภาพการรักษา ควบคู่ไปกับคุณภาพของการบริการที่ดีและความสะดวกสบาย ซึ่งส่วนนี้ตนเข้าใจดีว่าการให้บริการในรพ.เอกชนมีต้นทุน แต่ก็ได้ขอให้อย่าคิดราคาจากผู้ป่วยแพงเกินไป เพราะรู้ราคามาตรฐานอยู่แล้ว และเข้าใจว่าผู้รับบริการต้องการความสะดวกสลาย แต่ก็ขอให้คิดในราคาที่เป็นธรรม กำไรพอสมควร ส่วนประชาชนเองก็มีสิทธิในการเสาะสถานพยาบาลที่มีการเก็บค่ารักษาที่เหมาะสม และบริการที่เราพึงพอใจได้


ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางสมาคมรพ.เอกชน อยากให้สธ.ประสานเรื่องนี้กับกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ประสานอะไรทั้งนั้น
ต่อข้อถามจะให้ค่ารักษาเป็นสินค้าควบคุมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ขอเวลาดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่ตนได้ยืนยันว่าจะทำอะไรก็ต้องยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน จะทำอะไรไม่ใช่เรื่องที่ต้องแบ่งครึ่งต่อครึ่ง ฝ่ายรัฐบาลต้องเอียงข้างประชาชนแน่นอน แต่อยู่ในวิสัยที่รับได้ทั้ง2ฝ่าย ทั้งนี้ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการประกอบธุรกิจ ลำบากที่จะไปควบคุม หากทำตามมาตรฐานที่กำหนดทุกอย่าง จึงได้แต่ขอความร่วมมือ และดูแลให้ดำเนินการตามมาตรฐาน ทางที่ดีคืออย่าป่วยดีที่สุด