เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณาและซื้อยาต้านไวรัส HIV ทางสื่อออนไลน์
เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณาและซื้อยาต้านไวรัส HIV ทางสื่อออนไลน์
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาต้านไวรัส HIV ทางสื่อ Facebook จึงได้เร่งตรวจสอบ Facebook ชื่อ Mamieo Ritz (https://www.facebook.com/mamieoritz.rfc) https://www.getmyprep.com และ https://www.pulse-clinic.com/prep-pulse พบการขายยาต้านไวรัส HIV พร้อมระบุข้อความ “ยาต้านไวรัส HIV พร้อมส่งค่ะ” ขายผ่านทาง Facebook หลายครั้ง ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นยาต้านไวรัส HIV จริง ซึ่งเป็นยาที่มีทะเบียน และ เป็นยาควบคุมพิเศษ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการโฆษณาแสดงสรรพคุณยาควบคุมพิเศษ และ โฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกับผู้กระทำความผิด
อย. ขอเตือนไปยังผู้ป่วยโรค HIV อย่าหลงเชื่อซื้อยาดังกล่าวมารับประทานเองโดยเด็ดขาดยาประเภทนี้จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับขนาดของยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย โดยยาต้านเชื้อไวรัส HIV มีผลทำให้จำนวนเชื้อไวรัสลดลง เพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวมากขึ้น ทำให้โอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคฉวยโอกาสลดลง และสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มียาที่ทำให้หายขาดได้ ผู้ป่วยต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางรายรับประทานยาไปแล้วมีอาการดีขึ้นหยุดยาเอง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่หาย ทำให้เกิดปัญหาการดื้อยาในภายหลังได้ ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นที่มีราคาสูง ทั้งยังพบอาการอันไม่พึงประสงค์ หรือผลข้างเคียงจากยาตัวอื่นที่พบได้บ่อยกว่าหรือมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงกว่าเดิม
รองเลขาธิการ ฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ผลิตภัณฑ์ยาไม่ใช่สินค้าทั่วไป ไม่อนุญาตให้มีการขายยาผ่านทางสื่อออนไลน์ และหากต้องการโฆษณาขายยาต้องได้รับอนุญาตก่อน ซึ่งกฎหมายยังกำหนดไว้ชัดเจนว่าห้ามโฆษณาขายยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษ การขายยาควบคุมพิเศษต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ ซึ่งการกระทำผิดจากการขายยามีด้วยกันหลายกรณี เช่น ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการขายยาในสถานประกอบการที่ได้รับการอนุญาต เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยจึงต้องมีเภสัชกรอยู่ประจำร้านในการซักถามประวัติ การแพ้ยา จากคนไข้ ยาถือว่ามีทั้งคุณและโทษไม่ควรซื้อยาออนไลน์หรือทางเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเป็นยาจริงหรือ ยาปลอมได้มาตรฐานหรือมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงไร หรืออาจได้รับผลข้างเคียงจากยาจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ดัน 'ยากัญชา' เข้าบัญชียาหลัก-บัตรทอง
-'อนุทิน' เผย 3 ทางเลือกจัดระบบผู้ป่วยรับยาที่ร้านยา
-แพทย์ฉาวสารภาพ! เบิกยาหลวงขายส่งนายทุน ผลิตยาลดอ้วนมรณะ
-ดีเดย์ 15 ส.ค. 'พาณิชย์' เช็กค่ายาผ่าน QR Code