นายกฯ ยันจำเป็นต้องซื้อเรือ-เครื่องบิน เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ
นายกฯ ลั่นจำเป็นต้องซื้อเรือ-เครื่องบิน เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ ไม่ให้ลูกน้องอาย ใช้ของบุโรทั่ง
เมื่อวันที่ 5 ก.ย.62 เวลา 13.30 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานและให้ข้อคิดเห็นในการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังรับฟังข้อเสนอของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 61 ว่า สำหรับกองทัพไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นกองทัพที่ต้องมีศักยภาพ ทั้งคนและเครื่องมือ เป็นกองทัพชั้นนำ อุปกรณ์ต้องทันสมัยพอสมควร ไม่ใช่เอาบุโรทั่งไปสู้ไปอวดเขามันไม่ได้ วันนี้ทหารเรือไทยไปถึงโซเวียต ถ้าเป็นเรือเก่ามากไปก็อายเขา เวลาไปเสียระหว่างทาง เขานัด 3 เดือน แต่ 5 เดือนยังเดินทางไปไม่ถึง มันไม่ได้จะต้องมีการปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าตนอยากซื้อ ถ้ามันไม่ต้องซื้อได้ก็ดี รวมถึงเครื่องบิน ลองไปขึ้นกันดูบ้างสิ เว้นเครื่องบินของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ปลอดภัย แต่เครื่องบินที่มีอยู่ 20-30ปี ที่ตกกันบ่อยๆ แล้วก็มาเสียใจกัน ทุกคนต้องนึกถึงชีวิตของคนที่ใช้สิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นบนบก ทะเล อากาศ บางทีนายสั่งลูกน้องก็ไม่อยากไปเพราะอายเขา เพราะมันเก่าบุโรทั่งมาก วันนี้เราต้องดูส่วนนี้ให้เหมาะสม และจำเป็นจริงๆ แต่ไม่ใช่ซื้อกันเกลื่อน ไม่มีเงินขนาดนั้น ซึ่งเราต้องขายของให้มากขึ้น เวลาใครจะมาขายของ ตนถามว่าคุณจะซื้อของเรามากขึ้นหรือเปล่า ถ้าคุณซื้อสินค้าเกษตรของเรามากขึ้น เราก็จะซื้อเรือของเขามากขึ้น เวลาซื้อเรือลำหนึ่ง เครื่องบินลำหนึ่ง ต้องแลกข้าวหมดไปไม่รู้เท่าไหร่ ตนได้พูดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปด้วย ว่าพร้อมซื้อ แต่ขอมีเงินก่อน ก็เป็นการกดดัน ต่อรอง ต่างตอบแทนกันอยู่แบบนี้ ตนก็ต้องเจรจากับเขาให้ดี ไม่เช่นนั้นเราอาจผิดพลาด
นายกฯ กล่าวว่า หลายอย่างอาจเป็นบริบทของโลกในเวลานี้ ดังนั้น กองทัพต้องมีประสิทธิภาพในทุกมิติ พร้อมดำรงอยู่ ไม่ได้เตรียมไว้รบอย่างเดียว ต้องเตรียมไว้ฝึกร่วมกิจกรรมต่างประเทศมีเยอะ หลายคนอาจบอกว่าวันนี้ไม่มีการรบกันแล้ว ซึ่งวันนี้ไม่ได้รบกันแบบขนาดใหญ่ แต่รบกันตามแนวชายแดนที่มีความขัดแย้ง รบในพื้นที่จำกัด ถ้ารบกันรุนแรงก็จะหยุดเจรจา ถ้าเราหยุดไม่ได้แต่แรก หรือสู้เขาไม่ได้ เขตชายแดนที่เคยเกิดปัญหา ไม่มีทางที่จะต่อรองเขาได้ ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้มีไว้ให้เกิดความเกรงใจ ถ้ารบเราต้องเหนือกว่า ถ้ามันจำเป็น เราไม่ได้อยากรบกับใครอยู่แล้ว ตรงนี้ถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลและกองทัพในการดูแลความมั่นคงปลอดภัย
นายกฯ กล่าวว่า การจัดระเบียบป่าไม้ต้องอธิบายประชาชนให้เข้าใจ การปฏิบัติแรงๆ บางทีก็อ้างนายกฯ สั่ง สรุปคนเกลียดนายกฯ ทั้งประเทศ เพราะทุกคนอ้างนายกฯ สั่ง สรุปนายกฯ โดนคนเดียว ไม่น่าถึงโดนด่าทั้งวันในโทรศัพท์ มันไม่ใช่ตนไม่ได้สั่งอะไร แค่สั่งให้ไปหาวิธีการที่เหมาะสม ค่อยเป็นค่อยไปให้เขายอมรับ เนื่องจากเขาทำผิดกฎหมายอยู่หรือไม่ ขึ้นบัญชีก่อนหรือไม่ แล้วค่อยหาวิธีดูแล เพราะเขาบอกอยู่กันมานานแล้ว นี่คือการปล่อยปะละเลยกันมานาน ตนเห็นใจ คนเยอะที่ดินไม่เพียงพอ ที่ดินไม่ได้งอกทุกปี มีแต่ลดลง จึงต้องหาวิธีใช้ที่ดินให้ถูกกฎหมาย ขึ้นอยู่กับศิลปะของเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการ
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องไซเบอร์ทุกประเทศโดนหมด ตนเคยบอกไปแล้ว รัฐบาลในวันข้างหน้ายังไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง เพราะโลกดิจิทัลไซเบอร์จะเข้ามา ทำอะไรนิดนึงก็เป็นข่าว ขยับตัวก็เป็นข่าว หรือนายกฯ ทำหน้างอๆ ก็จะออกไปทางดิจิทัล เขาก็บอกว่าหน้าตาเหนื่อยเหลือเกิน ออกไปเถอะ ตนก็ไม่เข้าใจ แทนที่จะให้กำลังใจ ไม่มีเลย ดูหน้าตานายกฯ เหนื่อยนึกว่าจะดี แต่กลับบอกว่าให้ลาออกไปเถอะ พวกที่อยากให้อยู่ ก็บอกให้อยู่ต่อไป ให้นายกฯ สู้และอดทน ก็ไม่รู้จะฟังใครเหมือนกันในตอนนี้
“ผมฟังประชาชนเสียงส่วนใหญ่ เราต้องทำเพื่อชาติ ศาส์น กษัตริย์ และประชาชน จำคำพูดของผมไว้ ผมมีแค่นี้ในชีวิต ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน 4 อย่าง นี่คือมอตโต้ที่ผมใช้มาตั้งแต่เป็ยผู้บัญชาการทหารบก ทหารทุกคนใช้คำนี้หมด”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เผยปธน.เกาหลีใต้จะเยือนไทย นำ100นักธุรกิจพบนายกฯ
-นายกฯ ยันจำเป็นต้องซื้อเรือ-เครื่องบิน เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ
-'ประยุทธ์' ฮึ่มอย่ามีอีก! ส่งข้าวใส่กล่องพลาสติกให้กิน
-'ประยุทธ์'ห่วงปชช.คิดก่อนเยือนตปท.ตามธรรมเนียมผู้นำ