เปิดใจ ธัญญา เนติธรรมกุล "ถ้าผมมี 600 ล. นอนอยู่บ้านดีกว่า"
กรณีมีคลิปเสียงซื้อขายตำแหน่งข้าราชการระดับสูงของกระทรวงทรัพย์ฯ 600 ล้านบาท นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ่ได้เปิดใจกับ “คมชัดลึกออนไลน์” ไว้อย่างน่าสนใจ
คลิป 600 ล้านมีที่มาที่ไปอย่างไร
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ท่านรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ไปหมดแล้ว มันเป็นเรื่องโอละพ่อ แต่ในส่วนของผมถือว่าผมได้รับความเสียหาย ก็จะฟ้องคนที่ให้ข่าว มีบางคนมาขอร้องไม่ให้ผมฟ้อง แต่ผมบอกไม่ได้เพื่อศักดิ์ศรีของผม ผมมีศักดิ์ศรี ความดีที่ผมทำมาทั้งหมด ถ้าผมมีเงิน 600 ล้าน ผมไปนอนอยู่บ้านหรือทำธุรกิจอย่างอื่นดีกว่า คนที่เป็นข้าราชการจะเอาเงินจากที่ไหนมา 300 ล้าน 600 ล้าน ถ้าไม่มีมรดก ไม่มีฐานะทางบ้านมาก่อน ไม่มีทางเลยยกเว้นมาโกงกินเท่านั้น ผมอยู่กรมอุทยานมา 3 ปีกว่า สร้างชื่อเสียงมาให้กรมอุทยานฯขนาดนี้ ผมไม่ทำเรื่องแบบนี้ ผมจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย
ที่มีข่าวซื้อขายตำแหน่ง
ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ตั้งแต่ผมมาเป็นอธิบดี ไปสอบถามเจ้าหน้าที่แต่ละคนได้เลยที่ผมแต่งตั้ง ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแน่นอน ผมไม่ปฏิบัติเรื่องแบบนี้เด็ดขาด ในกรมอุทยานฯ ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแน่นอน ทุกคนที่ได้ตำแหน่งมาได้มาด้วยความรู้ความสามารถ คนดีต้องมีที่ยืน ตัวผมได้เป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้เสียสตางค์แม้แต่บาทเดียว ผมได้เป็นอธิบดีฯในสมัยรัฐบาล ยุค คสช.
มีข่าวว่าข้าราชการระดับสูงเกี่ยวพันกับคลิปมีคดีร้ายแรงกว่า 10 คดี
สำหรับตัวผมไม่มีคดีร้ายแรง ผมมีอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องแปลงงบเพาะชำกล้าไม้ และเรื่องขึ้นเงินเดือนภรรยา ซึ่งมีการร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช. และถูก ป.ป.ช. ตีกลับ
ท่านเป็นลูกหม้อกรมอุทยานฯ
ผมเป็นลูกหม้อกรมป่าไม้ ผมจบคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จบป่าไ่ม้มาโดยตรง ไต่เต้ามาจากกรมป่าไม้ แล้วไปอยู่กรมอุทยาน เป็นรองอธิบดี แล้วขึ้นเป็นอธิบดี
เรื่องขึ้นเงินเดือนให้ภรรยา
ผมดำเนินการตามระเบียบทุกอย่าง การขึ้นเงินเดือนมีหลักเกณฑ์ของเรา และอยู่ในอำนาจของผมที่จะขึ้นเงินเดือนให้ได้อยู่แล้ว และไม่ได้ขึ้นเงินเดือนแต่ภรรยาผมคนเดียว มีหลายคน คำสั่งชุดนั้นมีประมาณ 10 กว่าคน ที่ได้ขึ้นเงินเดือน 6% ตั้งแต่ปี 2559 ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ข้าราชการคนอื่นเขาก็ได้ขึ้นเงินเดือน 6% ซึ่ง 6% ถือว่าสูงสุดของข้าราชการที่เราจะให้ โดยเราพิจารณาจากการปฏิบัติงานต่างๆ ไม่ใช่ว่าเป็นภรรยาผม แล้วต้องได้ 6% แต่เราพิจารณาจากการทำงานและหลายด้าน ภรรยาผมเป็นข้าราชการอยู่ที่กรมอุทยานฯ เป็นระดับชำนาญการ ประมาณ ซี 6 ซี 7 และขึ้นเงินเดือนอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาได้เลื่อนตำแหน่ง การขึ้นเงินเดือนจึงเป็นเรื่องปกติ มีการร้องเรียนเรื่องการขึ้นเงินภรรยาผมไปที่ ป.ป.ช. แต่ถูก ป.ป.ช. ตีกลับ เพราะไม่ใช่เรื่องทุจริต ่โดยเห็นว่าเป็นเรื่องดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบราชการ
การร้องเรียน การปล่อยข่าว จะเกิดจากผู้ไม่หวังดี คิดว่าต้องมาจากคนในกรม และคนที่หวังจะขึ้นเป็นอธิบดีฯ และอดีตข้าราชการ และจะเกิดในช่วงเดือนเมษายนหรือกันยายน ช่วงที่มีการโยกย้าย ผมจะโดนตลอด ต้องการเลื่อยขาเก้าอี้ ซึ่งไม่ต้องแปลกใจ วงการราชการเรื่องการเลื่อยขาเก้าอี้เป็นเรื่องธรรมดา และผมมาถึงตรงนี้ได้ถือว่าอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว ผมได้ทำดีตอบแทนบุญคุณประเทศ ก็โอเคแล้ว
ผมทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกสิ่งทุกอย่าง ผมพูดเสมอว่า ผมจะอยู่ในตำแหน่งนานหรือไม่ ไม่ได้ซีเรียส แต่เมื่ออยู่ในตำแหน่งแล้วต้องทำงานให้ดีที่สุดเพื่อทดแทนพระองค์ท่าน ผมเกิดมาในรัชกาลที่ 9 และรับราชการในสมัยรัชกาลที่ 9 ผมก็ต้องตอบสนองพระองค์ท่านรวมทั้งรัชกาลปัจจุบันด้วย ผมมีอยู่มีกิน มีเกียรติในสังคมทุกวันนี้ ก็เพราะพระองค์ท่าน ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องทำก็คือทดแทนให้ดีที่สุด
ท่านรัฐมนตรีว่าอย่างไรบ้าง
ตอนแรกรัฐมนตรีตั้งใจ จะฟ้องเหมือนกัน แต่มีการไปขอโทษท่านเสียก่อนว่าเข้าใจผิด ระหว่างผมกับท่านรัฐมนตรี ไม่มีเรื่องเงินทองแน่นอน
ภรรยาบอกผมทนอยู่ทำไม อยากให้ผมลาออกด้วยซ้ำไป ผมบอกไม่ได้ ณ วันนี้ ผมต้องพิสูจน์ศักดิ์ศรี ต้องเอาคนไม่ดีมาลงโทษให้ได้