รองปธ.วุฒิ ถามคนจ้องแก้ที่มาส.ว. จะแก้บทหลักหรือบทเฉพาะกาล
"สิงห์ศึก" ถามคนจ้องแก้ที่มาส.ว. จะแก้บทหลัก หรือบทเฉพาะกาล ค้านแก้รธน. เพื่อเข้าทางฝ่ายใด มั่นใจ "ส.ว." เห็นด้วยหากแก้ไขแล้วปชช.-ส่วนรวม ได้ประโยชน์
พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นที่ส.ส.เข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติเสนอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ว่า ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ หากส.ส. หรือ ส.ว.มีประเด็น สามารถเสนอตามขั้นตอนที่กำหนดได้
อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่าขณะนี้มีประเด็นการแก้ไขอย่างไรบ้าง โดยตนมองว่าหากจะแก้ไขประเด็นใดต้องสอบถามประชาชนว่าเห็นด้วยกับประเด็นต่างๆ หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนุญ พ.ศ.2560 นั้นผ่านการทำประชามติจากประชาชนด้วย ส่วนกรณีที่มีบางฝ่ายระบุว่าต้องการแก้ไขที่มาของส.ว. นั้น ต้องเข้าใจว่า ส.ว.ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดที่มาไว้ใน 2 บท คือ บทหลัก ตามมาตรา 107 ที่มาจากการเลือกกันเอง ขณะที่ในบทเฉพาะกาลให้ส.ว.ชุดแรกมาจากการเลือกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และมีบทบังคับใช้เพียง 5 ปีเท่านั้น ดังนั้นหากจะแก้ไขยังไม่ทราบว่าจะแก้ไขในรายละเอียดส่วนใด หรือส.ว. เป็นภาระที่จะแก้ไขอย่างไร
"ผมมองว่าประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประโยชน์ต่อส่วนรวม คิดว่าส.ว.คงไม่ขัดข้อง แต่หากแก้ไขแล้วเพื่อให้เข้าทางบุคคลใดนั้นไม่เห็นด้วย และต้องสอบถามประชาชน อย่างไรก็ดีที่มีผู้ระบุว่าอยากแก้ไขว่าด้วยวิธีแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แก้ไขง่ายนั้น ผมมองว่าขั้นตอนของรัฐธรรมนูญมีกำหนดไว้ทั้งหมดแล้ว ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญ" พล.อ.สิงห์ศึก กล่าว.