'ดร.สถิตย์' แนะถอดบทเรียนพลังงานสะอาดโลก

'ดร.สถิตย์' แนะถอดบทเรียนพลังงานสะอาดโลก

"ดร.สถิตย์" แนะไทยมุ่งสู่ประเทศแห่งพลังงานสะอาด ( non-fossil energy) หนุนกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ จับมือกระทรวงการคลังนำข้อมูลรายได้คนไทย ช่วยอุดหนุนพลังงานผู้มีรายได้น้อยถูกจุด

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.62 ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวอภิปรายในการประชุมสมาชิกวุฒิสภา แนะให้ไทยลดการใช้พลังงานฟอสซิล (Fossil) ได้แก่ ถ่านหิน ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ โดยหันมาใช้เพิ่มการใช้พลังงานทดแทน (alternative energy) ในสัดส่วนที่มากขึ้น รวมทั้งพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด อันได้แก่ พลังงานลมพลังงานแสงแดด พลังงานน้ำ พลังงานชีวภาพ และพลังงานความร้อนใต้ภิภพ เป็นต้น

พร้อมกล่าวถึงเรื่องของความสำคัญของพลังงานสะอาดในระดับโลก เช่นประเทศเดนมาร์ก ตั้งเป้าใช้พลังงานสะอาด 100% ในปี 2593 และประเทศฟินแลนด์ ตั้งเป้าใช้พลังงานสะอาด 50% ในปี 2573 ดังนั้นจึงเสนอแนะว่าประเทศไทยควรสนับสนุนพลังงานสะอาดให้มากขึ้นเพื่อให้พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแนวทางการพัฒนาพลังงานในระดับสากล แต่โดยที่พลังงานสะอาดเช่นพลังงานลม และพลังงานแสงแดดขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้บางช่วงมีพลังงานมาก บางช่วงพลังงานน้อย หรือบางช่วงไม่มีพลังงานเลยเช่นเวลากลางคืน ดร.สถิตย์ จึงเสนอว่า ประเทศไทยควรมีการลงทุนทางเทคโนโลยีที่สามารถเก็บกักพลังงานตามธรรมชาติอย่างพลังงานลมและพลังงานแสงแดดเพื่อให้สามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องแม้ยามไม่มีแสงอาทิตย์ 

10539906770130

ในขณะเดียวกัน ดร.สถิตย์ อภิปรายว่าการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่อุดหนุนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ด้อยโอกาสในปัจจุบันใช้หลักปริมาณไฟฟ้าเป็นเกณฑ์ให้ใช้ไฟฟ้าฟรี 50 หน่วย โดยไม่คำนึงว่าผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าว เป็นผู้มีรายได้มากหรือรายได้น้อย(ที่เรียกว่าแบบ Universal) ดร.สถิตย์จึงเสนอให้เป็นวิธีที่เจาะจงถึงผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง (ที่เรียกว่าวิธีแบบ Targeted) โดยใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) ที่กระทรวงการคลังมีอยู่แล้ว เรื่องรายได้ของประชากรไทย ซึ่งบอกได้ว่ากลุ่มไหนคือผู้มีรายได้น้อย โดยผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีประมาณ 14.6 ล้านคนในจำนวนนี้มีผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปีประมาณ 10.8 ล้านคน และสูงกว่านั้นประมาณ 3.6 ล้านคน จึงสามารถนำข้อมูลตรงนี้มาใช้ได้ตรงจุด สามารถอุดหนุนผู้มีรายได้ได้ตรงเป้าหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้อาจจะมีหน่วยไฟฟ้าเหลือ ก็สามารถนำไปเพิ่มให้กับผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมได้