ย้าย 'ดาบเท่ง' หลังสอบพบโทรคุยภรรยาลูกน้อง 'ชัยวัฒน์' เป็นพยานคดี 'บิลลี่'
“บิ๊กแป๊ะ” สั่งเด็ดขาดคดี “บิลลี่” ย้ายดาบตำรวจภาค 7 โทรหาเมียลูกน้อง “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร”
รอง โฆษก ตร. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เปิดเผยวันนี้ว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ผบช.ภ.7 ได้มีคำสั่งให้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (สบอ.9) และอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่า มีนายตำรวจโทรไปข่มขู่ลูกน้องนายชัยวัฒน์ให้ปรักปรำตนในคดี “บิลลี่” และให้รายงานผล ภายในวันที่ 9 ก.ย.2562
ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ และรับฟังเป็นข้อยุติได้ส่วนหนึ่งว่า ด.ต.พงศ์ษาวดี หรือ “เท่ง” ไทยกูล ผบ.หมู่ กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ได้ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ที่ได้โทรศัพท์สนทนาพูดคุยกับ นางรัตน์ดาวรรณ หรือ "อร บุษราคัม" ภรรยาของ นายบุญแทน บุษราคัม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อดีตเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งข้อเท็จจริงตามบทสนทนาเป็นการพูดคุยกันตามที่ปรากฏทางสื่อ ถ้อยคำข้อความที่ปรากฏก็มีลักษณะเป็นการพูดคุยซักถามในฐานะคนรู้จักกันมากกว่าการข่มขู่ตามที่ถูกกล่าวหา
โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าการกระทำของ ด.ต.พงศ์ษาวดี มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ในความผิดฐานกระทำการหรือละเว้นการกระทำการใดอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการ หรือทำให้เสียระเบียบแบบแผนของตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า ภายหลังการตรวจสอบเบื้อต้น พล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด ผบก.สส.ภ.7 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ ด.ต.พงศ์ษาวดี ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยในเรื่องดังกล่าว และเพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม จึงได้มีคำสั่งให้ด.ต.พงศ์ษาวดี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 (ศปก.บก.สส.ภ.7)
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ได้มอบอำนาจให้ นายวินัย บัวศรี หัวหน้ากลุ่มงานกฎหมายสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี เข้าแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กรณีมีผู้อ้างว่าเป็นข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ข่มขู่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของนายชัยวัฒน์ฯ เพื่อให้การปรักปรำนายชัยวัฒน์ฯ ขณะทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานฯ ว่าเป็นตัวการสังหาร นายบิลลี่ หรือพอละจี รักจงเจริญ โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะกันตัวไว้เป็นพยาน ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่อุทยาน บุคคลดังกล่าวนั้น
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้จาก สภ.เมืองอุบลราชธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯ ของ สบอ.9 ได้เข้ามาแจ้งความ โดยประสงค์ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อขอความคุ้มครองพยานบุคคล ซึ่ง สบอ.9 เห็นว่า มีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่และขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ โดยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตเสรีภาพส่วนบุคคล และการให้การคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยานบุคคล
สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีการกล่าวอ้างถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ตลอดจนการชี้นำหรือข่มขู่ ทำให้เกิดพยานหลักฐานเท็จ หรือพยานหลักฐานอื่นใด ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดี หรือ การประพฤติปฏิบัติตนไม่เหมาะสมในฐานะผู้รักษากฎหมาย หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ให้ดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยหรือทางอาญา อย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย