กรมชลฯ ปรับลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
กรมชลฯ ปรับลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา หลังปริมาณน้ำที่ไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.เมืองนครสวรรค์ มีแนวโน้มลดลง
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน(15 ก.ย. 62) สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 11,758 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 5,062 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 28 สามารถรองรับปริมาณน้ำได้รวมกันอีกกว่า 13,000 ล้าน ลบ.ม.
ด้านสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในวันนี้(15 ก.ย. 62)ปริมาณน้ำทางตอนบนที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 1,198 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 5 เมตร มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่น้อยลง ปริมาณน้ำไหลต่อมายังเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งได้มีการปรับลดการระบายน้ำในช่วงเช้าที่ผ่านมาเหลือ 750 ลบ.ม./วินาที จากเดิม 800 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างลดลง
ซึ่งการปรับลดการระบายน้ำนั้นจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย บริเวณบ้านบางหลวงโดดและบ้านบางบาล อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดลงประมาณ 10 เซนติเมตร ในช่วงเวลาเที่ยงวันของวันพรุ่งนี้(16 ก.ย. 62 เวลาประมาณ 12.00 น.)ตามลำดับ ปัจจุบันระดับน้ำบริเวณดังกล่าวยังคงต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 2 เมตรกรมชลประทาน เฝ้าระวัง ติดตาม และบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสภาพฝน พร้อมรักษาเสถียรภาพของอ่างเก็บน้ำ และลำน้ำอย่างเคร่งครัด ตามสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด
อีกทั้ง ยังต้องเก็บกักปริมาณน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้า เพื่อความมั่นคงด้านน้ำในอนาคตด้วย จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรับข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น