3ภาคีรัฐ เดินหน้าโมเดล '5-4-3ความสุของค์กรเสริมด้วยเรา'
สร้างสุขภาวะองค์กรระดับชาติ ผ่านโมเดล "5-4-3ความสุของค์กรเสริมด้วยเรา"
สสส.และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งดำเนินการ “โครงการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมองค์กรแห่งความสุข” ตามบันทึกข้อตกลงที่ทำไว้สามฝ่าย เพื่อวางรากฐานสู่ต้นแบบแผนยุทธศาสตร์20 ปีพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ระยะยาว
นายสุจิตต์ ไตรพิทักษ์ ที่ปรึกษากรรมการบริหารแผน 4 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือโครงการเสริมสร้างสุขภาวะองค์กรภาครัฐ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้ เป็นการขยายผลความสำเร็จต่อเนื่องหลังจากกระทรวงได้ดำเนินการครั้งแรกในปี 2556 และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จากการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)ระหว่าง สสส.สถาบันวิจัยสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ โดยมีเป้าหมายให้เกิดการเสริมสร้างสุขภาวะองค์กรในระดับกระทรวง ครอบคลุมทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง
สำหรับโครงการฯ ดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ สสส. ที่ต้องการส่งเสริม พร้อมสนับสนุนให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งจะต้องเริ่มตั้งแต่ การมีร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่แจ่มใส และสติปัญญาที่ดี อันจะนำไปสู่สุขภาวะสังคมในอนาคต ซึ่งการจะเริ่มสร้างสังคมให้มีความสุขนั้น ส่วนหนึ่งยังจะต้องเริ่มจากการสร้างความสุขในสถานที่ทำงาน หรือ ที่เรียกว่าสุขภาวะองค์กร ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำไปสู่แนวทางภาคปฏิบัติร่วมกันได้ในองค์กรต่างๆ ทั้งหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรศาสนา ฯลฯ โดยทั้งหมดนี้จะต้องไปพร้อมกันทั้งองคาพยพ เพื่อนำไปสู่สุขภาวะสังคมและของประเทศชาติ ได้ในที่สุด
"สสส.ได้เข้ามาสนับสนุนทั้งด้านงบประมาณส่วนหนึ่งในระยะแรก และ เครื่องมือองค์ความรู้ โดยมีสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการรวบรวมและเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องพร้อมสำรวจปัจจัยด้านต่างๆ ที่มีผลต่อการสร้างสุขภาวะองค์กร ผ่านดัชนีชี้วัดการประเมินสุขภาวะองค์กรHOA. (Healthy Organization Assessment) ตัวมาตรวัดคุณภาพชีวิตและการทำงานของบุคลากร" นายสุจิตต์ กล่าว
จากการดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ สสส. ยังมุ่งมั่นให้โครงการฯดังกล่าวจะเป็นต้นแบบอันดีในการสร้างสุขภาวะองค์กรในระดับกระทรวง ซึ่งเป็นหน่วยงายของภาครัฐที่จะต่อยอดไปยังแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีในการพัฒนาบุคลากร จากการบรรจุเรื่องนี้เข้าไปยังแผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
นอกจากนี้ สสส. ยังคาดหวังในระยะยาวว่าหากสามารถสร้างสุขภาวะองค์กรได้อย่างถาวรแล้ว ข้าราชการและบุคลากรจะมีสุขภาวะทั้งร่างกาย จิตใจ ที่ดีนำไปสู่การทำงานด้านบริการราชการ ที่มีประสิทธิภาพด้วยความสุข และอาจจะส่งผลให้ปัญหาการคอรัปชั่นลดลงไปด้วย สุดท้ายส่งผลให้ประชาชนในประเทศมีความสุขตามมา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เดินหน้าปั้นนักสร้างสุของค์กร
นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าการลงนามฯ โครงการเสริมสร้างสุขภาวะองค์กรในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จมาจากโครงการเสริมสร้างสุขภาวะองค์กรระดับหน่วยงาน
“สำนักงานปลัดกระทรวง " ซึ่งได้เริ่มขึ้นจากส่วนกลาง เป็นครั้งแรกในปี 2556 และขยายผลการจัดทำโครงการ/กิจกรรมย่อย ไปยังหน่วยงานในสังกัดระดับภูมิภาค 76 จังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลให้บุคลากรใน สำนักงานปลัดกระทรวง มีเครือข่ายในการประสานงาน การดำเนินงานมีความคล่องตัว รวดเร็ว
มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล มากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างนักสร้างสุของค์กรให้เกิดขึ้นจริงจำนวนทั้งสิ้น 140 คน ต่อมาในปี 2560 กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ได้จัดทำโครงการสร้างเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของกรมควบคุมมลพิษ(HappyWorkPlace@PCD) ซึ่งสามารถสร้างนักสร้างสุของค์กรให้เกิดขึ้นจริงจำนวนทั้งสิ้น 120 คน
สำหรับความร่วมมือฯล่าสุดในครั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการนำโครงการเสริมสร้างสุขภาวะองค์กรมาขยายผลการดำเนินกิจกรรมให้เกิดความต่อเนื่องในระดับกระทรวง โดยจะมีหน่วยงานในสังกัดระดับกรมทุกกรมจำนวน 10 กรม หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 3 หน่วยงาน และ องค์การมหาชน จำนวน 2 หน่วยงาน มีจำนวนข้าราชการและบุคลากรทั้งสิ้น41,414 คน
โดยวางแผนระยะเวลาในการดำเนินการโครงการฯ ประมาณ 2 ปี (พ.ศ.2562-2564) และคาดว่าจะสามารถสร้างนักสร้างสุของค์กรตัวคูณได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 คน เพื่อเป็นผู้นำในการเสริมทัพขับเคลื่อนแนวคิดการเสริมสร้างองค์กรสุขภาวะเสริมสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานให้บุคลากรในหน่วยงาน
นายวิจารย์ กล่าวว่าความท้าทายในการดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการฯ ดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา คือ ความยากลำบากในช่วงเริ่มต้นกิจกรรม จากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัญหาหลักด้าน 'การสร้างสมดุลชีวิตการทำงาน' แต่เมื่อนำกรอบแนวทางจากโครงการฯมาใช้ พร้อมกับที่บุคลากรทุกฝ่าย ทุกหน่วยงาน ร่วมทำความเข้าใจและพร้อมใจร่วมมือกันในการสร้างความความสุขในสถานที่ทำงานร่วมกัน จะส่งผลให้การดำเนินการโครงการฯในครั้งนี้ นำไปสู่สุขภาวะองค์กรได้อย่างยั่งยืน
จุฬา ชู ‘โมเดล 5-4-3’ ขับเคลื่อนองคาพยพ ‘สุขภาวะองค์กร’
ดร.ศิริเชษฐ์ สังขะมาน อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าสำหรับโครงการฯ ในครั้งนี้ สสส.และสถาบันวิจัยสังคมจุฬาฯ ได้นำผลการศึกษาและวิจัยเพื่อพัฒนาสู่แนวทางปฏิบัติ (โมเดล) สร้างสุขภาวะองค์กรภายใต้สูตร "5-4-3" มาร่วมใช้ในกิจกรรมสร้างสุขภาวะองค์กรกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บรรลุสู่ต้นแบบสุขภาวะองค์กร (Healthy Organization)ระดับประเทศได้อย่างเหมาะสมในเวลานี้
ขณะที่โมเดล "5-4-3" จะประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดังนี้ ในขั้นแรกหลัก'5 ส.' ประกอบด้วย 1.สถานการณ์ ที่ควรศึกษาสำรวจวิเคราะห์ข้อมูล เข้าใจความต้องการบุคลากรและปัญหาในองค์กร คือการเข้าใจโจทย์ 2.สร้างแกนนำขับเคลื่อนต้องมีเครือข่ายและบุคลากรที่ดำเนินการเตรียมแผนในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ คือมีฟันเฟื่องตัวเล็กๆ ค่อยๆ ขยับไปสู่วงใหญ่ 3.สนับสนุนพื้นที่คิด เครื่องมือทำ ทำให้เกิดกลุ่มชมรม เปิดทางเลือกที่หลากหลายตามความต้องการและงบประมาณที่มี 4.ส่งเสริมสู่การปฏิบัติภายในให้เกิดนโยบาย อาจมีคำสั่งเพื่อให้เกิดการผลักดันที่เป็นรูปธรรม หรือแต่งตั้งกรรมการให้ขยับช่วยกันทำ และ 5. สื่อสาร เพื่อนำเสนอ เผยแพร่ สร้างความเข้าใจ ตระหนักรู้และบอกเล่าความสำเร็จเป็นระยะๆ ทั้งในระดับบุคลากรและระดับผู้บริหาร
จากนั้น เมื่อรู้สถานการณ์ เข้าใจประเด็นแล้ว ให้เริ่มบริหารจัดการโดยเข้าสู่กระบวนการ '4 ต.' ประกอบด้วย 1. การติดตั้งความรู้การใช้เครื่องมือ อบรมและฝึกทักษะปรับสู่คุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึ่งประสงค์ให้กับบุคลากรทุกระดับและแกนนำที่เรียกว่านักสร้างสุของค์กร (นสอ.) 2. การติดตามเพื่อบ่มเพาะ(Nursing) ภาคีในการดำเนินงาน เน้นการตรวจเยี่ยมให้การปรึกษาคำแนะนำ เพื่อลดหรือแก้ปัญหา 3. การเติมเต็มสิ่งที่ยังขาดด้วยวิธีการโค้ช (Coaching) ร่วมถอดบทเรียนความสำเร็จและ 4. การต่อยอด คือการยกระดับสู่การเป็นองค์กรสุขภาวะต้นแบบที่มีมาตรฐาน เกิดเป็นศูนย์เรียนรู้และนวัตกรรมนำสู่องค์กรสุขภาวะต่อไป
โดยเป้าหมายสุดท้ายที่เป็นความสำเร็จ จะประกอบด้วย3 ส่วน คือ 1.สู่องค์กรสุขภาวะอย่างถาวร(Change for Good)2. สู่การบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรภาครัฐกับหน่วยงานกำกับนโยบาย (Network Integration) และสุดท้าย 3.สู่นโยบายระดับชาติ(National Agenda) มีแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว
สำหรับระยะเวลาดำเนินการเพื่อให้บรรลุผลเป็นไปตามเป้าหมายโครงการฯ คาดใช้ระยะเวลา 2-3 ปี โดยนับจากวันเริ่มนำโครงการฯ เข้าสู่แผนเชิงปฏิบัติอย่างจริงจัง ซึ่งยังจะมาจากความร่วมมือของข้าราชการและบุคลากรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ อย่างพร้อมเพรียงด้วยองคาพยพในการร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตการทำงานของภาครัฐจะเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมได้ จะต้องใช้องค์ประกอบแห่งความสำเร็จร่วมกัน คือ“เรา”ทุกคน เริ่มตั้งแต่ ตัวองค์กร ต้องตระหนักร่วมถึงความสำคัญของคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากร ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงระดับผู้ปฏิบัติงาน มองเห็นว่าเป็นการร่วมเสริมสร้างความสุข ในการใช้ชีวิตร่วมกันในการทำงานของทุกคน สร้างบุคลากรที่ดี สร้างที่ทำงานที่ดี สร้างครอบครัวที่ดี และสังคมที่ดี เกิดความรู้สึกของการเป็นเจ้าขององค์กรแห่งความสุขนั้นร่วมกันเพื่อนำไปสู่วัฒนธรรมองค์กรในอนาคต
พร้อมกันนี้ สสส. ผู้ซึ่งมีองค์ความรู้ ชุดประสบการณ์ ก็จะได้เข้ามาส่งเสริมช่วยสร้างความตระหนักรู้ถึงเรื่องดังกล่าวนั้น ให้ขับเคลื่อนไปได้อย่างแท้จริง และสุดท้ายองค์ประกอบที่เป็นจุดจัดการซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและผู้ช่วยให้คำปรึกษา สร้างเครือข่ายคอยเชื่อมโยงกระบวนการทำงานระหว่างองค์กรผู้รับทุน และ สสส.อันได้แก่ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีประสบการณ์ในการร่วมจัดการองค์กรสุขภาวะ ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 60 ส่วนราชการระดับกรม ให้เกิดพลังในการร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตในการทำงาน ภาครัฐอย่างยั่งยืน ท้ายสุดย่อมส่งผลไปสู่การพัฒนาประเทศ เพื่อคนไทยในภาพรวม