'มะพร้าวไทย' ราคาแพงฉุดยอดขาย-บีบย้ายฐาน

'มะพร้าวไทย' ราคาแพงฉุดยอดขาย-บีบย้ายฐาน

บรรดาโรงรับซื้อและคนงานจ้างกะเทาะมะพร้าวในสมุทรสงครามครวญงานหด วอนรัฐไฟเขียวให้โรงงานนำเข้ามะพร้าว ขณะที่พ่อค้าระบุราคาแพง-ต้นทุนพุ่ง หวั่นทำคู่ค้าหนี เผยบางรายย้ายไปปักฐานอินโดนีเซียผลิตขายแข่ง ผวาอนาคตลามกระทบชาวสวนไทย

สถานการณ์การส่งออกกะทิในปี 2562 มีปริมาณการส่งออกตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค. 2562 จำนวน 150,604 ตัน คิดเป็นมูลค่า 7,465 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% และ 5% ตามลำดับ ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกจะเติบโตจากปี 2561 แต่เมื่อคำนวณกลับมาเป็นราคาสินค้าต่อหน่วยแล้วกลับพบว่าราคาสินค้าต่อหน่วยที่ขายได้ในปี 2561 นั้นราคา 52,900 บาทต่อตัน ปัจจุบันราคา 49,600 บาทต่อตัน

แหล่งข่าววงการค้ามะพร้าว เผยว่า ปัจจุบันราคามะพร้าวคละ 15 บาท/ลูก ทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงมากในช่วงระยะเวลาสั้นคงไม่เป็นไร หรือราคาสูง-ต่ำ เป็นช่วง ๆ อย่างน้อยมีตัวเฉลี่ยราคา ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านถูกกว่าเรา 2-3 เท่า ตลาดจะเป็นคนบอกเองว่าจะซื้อน้อยลงไปซื้อที่อื่นมากขึ้น ก็เข้าใจเกษตรกรว่าอยากให้ราคาดีปรับตัวสูงขึ้น ๆ แต่อยากให้ดูต้นทุนว่าผู้ส่งออกจะไปแข่งกับเพื่อนบ้านได้หรือไม่ ดังนั้นถ้าไม่ย้ายฐานการผลิตไปก็จะเสียตลาดให้เพื่อนบ้านไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมา ไทยจะได้เปรียบเรื่องมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือ แต่เมื่อราคาขายถูกกว่าไทยจะค่อย ๆ กินตลาดไปเรื่อย ประกอบกับมีผู้ประกอบการไทยบางรายไปลงทุนอินโดนีเซียแล้ว หลายปัจจัยประกอบกันไม่ใช่แค่ราคาวัตถุดิบอย่างเดียว ยังมีค่าแรง ค่าเงินบาท และตลาดอินโดนีเซียเป็นตลาดสำคัญด้วย เมื่อย้ายฐานไปแล้วการผลิตจึงไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบก็คือเทียบเท่ากับเมืองไทย ต่อไปเกษตรกรจะเดือดร้อนของจริงแล้ว

“สุดท้ายเหมือนดีใจชั่วคราว แต่ยาว ๆ อยู่กันไม่ได้ มีเรื่องขายในประเทศ ส่งออกสินค้าเกษตรคล้ายคลึงกัน อะไรที่ขายในประเทศราคาแพงอยู่แล้ว ได้ราคาดีกว่าเพราะไปถึงผู้บริโภคโดยตรง แต่ว่าส่งออกไปผ่านอะไรหลายด่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำเข้า ด่านค้าปลีก ทุกอย่างมีต้นทุนแฝงหมด แค่ราคาต้นทุนในประเทศเท่ากันกับเพื่อนบ้านก็ส่งออกยากแล้ว"

10624861413848

ตอนนี้ตลาดกะทิ ชะลอตัวตามกระแสนักท่องเที่ยวที่ลดลง ปีก่อนหน้ามีคนเข้าช่วยแชร์อยู่ที่ 32 ล้านคนปีนี้น่าจะไม่หวือหวานักนอกจากบริโภคในเมืองไทย นักท่องเที่ยวเข้ามาบริโภคอาหารที่มีกะทิหรือแม้กระทั่งมะพร้าวน้ำหอมจะขายดีตามเทรนด์ของตลาดท่องเที่ยวด้วย

แหล่งข่าวเกษตรกร กล่าวว่า ตอนนี้มะพร้าวในพื้นที่ไม่เพียงพอ ขอให้สามารถนำเข้ามะพร้าวมาช่วยให้มีรายได้ โรงรับซื้อและชาวบ้านที่รับจ้างกะเทาะมะพร้าวในจังหวัดสมุทรสงครามอยากให้เปิดการนำเข้าเพื่อรักษาอาชีพการกระเทาะมะพร้าว เพราะมะพร้าวในประเทศไม่เพียงพอและราคาสูง ตอนนี้ชาวบ้านที่รับจ้างกระเทาะไม่มีรายได้เลย เนื่องจากไม่มีมะพร้าวให้กระเทาะแล้ว ขณะที่ By product เช่น กะลา ขายได้ราคาต่ำลงเหลือกิโลกรัมโลละ 1.50 บาท จากเดิม 4.50 บาท

ส่วนราคามะพร้าวจากจ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งมาถึงสมุทรสาคร ราคา 16-18 บาท โรงรับซื้อเริ่มสู้ราคาไม่ไหว หากนำมากระเทาะเอง ขณะนี้เริ่มรับเนื้อขาวจากลูกบ้านแทนการซื้อมะพร้าวผลจากประจวบฯมากระเทาะ ราคารับซื้อ 28-30 บาท เป็นราคาใกล้เคียงกับราคารับซื้อของโรงงาน

ด้านสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ประเมินความต้องการมะพร้าวผลรวมทั้งประเทศในปี 2562 โดยรวมทั้งการบริโภคในประเทศและกาส่งออก ที่ประมาณ 1.1 ล้านตัน ในขณะที่ข้อมูลผลผลิตในประเทศจากการสำรวจมีเพียง 8.78 แสนตัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของทั้งประเทศ