ยื่นกมธ.ปราบโกง สอบต้นสังกัด 'อธิบดีฯไก่อู' หวั่นมวยล้ม
กมธ.ปราบโกง สภาฯ” รับ 2 คำร้องเรื่อง หลัง "เพื่อไทย" ยื่นสอบต้นสังกัด "พล.ท.สรรเสริญ" ปมใช้อำนาจเอื้อการเมือง "เรืองไกร" ยื่นสอบ 3 หน่วยงาน ใช้งบผิดวัตถุประสงค์
ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานกมธ. ก่อนการประชุมได้รับเรื่องร้องเรียน 2 เรื่อง จากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการใช้งบผิดปกติของ 3 องค์กร และ ร.ท.สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ต่อกรณีให้กมธ.พิจารณาประเด็นเพิ่มเติมระหว่างการตรวจสอบข้อเรียนของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นคุณหรือโทษให้กับผู้สมัครและพรรคการเมือง ช่วงเลือกตั้ง
โดยร.ท.สุณิสา ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือว่าตนทราบว่า กมธ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ อยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตามคำร้องของรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามประเด็นของตนคือ ต้องการให้ กมธ.ฯ กำกับ ติดตามการตรวจสอบพล.ท.สรรเสริญ ที่ทราบว่าสำนักปลัดสำนักนายกฯ ฐานะต้นสังกัด และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากตนกังวลว่าการตรวจสอบของหน่วยงานจะเป็นการตรวจสอบที่ทำให้สังคมเห็นว่าเป็นมวยล้ม เนื่องจากพล.ท.สรรเสริญ ที่เป็นบุคคลที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทั้งนี้ขอเรียกร้องฝ่ายที่มีอำนาจออกคำสั่งให้พล.ท.สรรเสริญ ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างตรวจสอบ
ขณะที่นายเรืองไกร ให้สัมภาษณ์หลังการยื่นหนังสือด้วยว่าจากการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนา พบประเด็นที่ส่อว่าจะใช้งบประมาณในทางมิชอบ จึงยื่นให้ กมธ.ฯ ตรวจสอบหน่วยงาน คือ สำนักงานศาลยุติธรรม, สำนักงานอัยการสูงสุด และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ทำเรื่องของบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนา มูลค่ารวมหลายล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมของสำนักงาน ทั้งที่หน่วยงานทั้ง 3 สามารถเสนอขอและจัดสรรงบประมาณได้ภายใต้หน่วยงานของตนเอง โดยไม่ต้องของบจากหน่วยงานภายนอก
“ผมไม่ทราบว่าเงินที่หน่วยงาน 3 คนขอจากสำนักงานพระพุทธศาสนา นั้นนำไปใช้อย่างถูกต้องตามที่เสนอเรื่องหรือไม่ หรือนำไปใช้อย่างอื่น ซึ่งการตรวจสอบเรื่องนี้เคยมีบรรทัดฐานจากการตรวจสอบผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ใช้งบประมาณไม่ตรงกับโครงการที่ตั้งเรื่อง และมีความผิดมาแล้ว ดังนั้นเพื่อให้การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทำได้ จึงขอให้กมธ.ฯ ตรวจสอบและเรียกเอกสาร รวมถึงบุคคลมาชี้แจงเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่าสำหรับเอกสารที่ตนยื่นประกอบคำร้องให้ตรวจสอบนั้น มีเอกสารสำคัญคือ เอกสารหมายเหตุประกอบงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด 30 กันยายน 2561 ระบุว่ามีคดีที่ฟ้องร้องจากบริษัททัวร์ของเอกชน ปี 2559 ต่อสำนักงานพระพุทธศาสนา มูลค่าการฟ้อง 5.2 ล้านบาท ที่สำนักงานฯ ทำผิดสัญญาเงินทดรองจ่าย ตามโครงการดูงานและปฏิบัติธรรม ที่ ประเทศเนปาล 3- 10 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งมีเยาวชนจากสำนักงานศาลยุติธรรม และ เยาวชนจาก ป.ป.ช. รวม70 คน ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเงินทดรองจ่าย คือ งบประมาณที่ไม่ได้รับจัดสรรตามงบประจำปี และมีข้อสงสัยด้วยว่าเหตุใด 2 องค์กรไม่ใช้งบประมาณของหน่วยงานตนเอง.