จำคุก 16 โจ๋งานบวชวัดสิงห์ป่วนสอบ หนักสุดเกือบ 20 ปี
ศาลอาญาพิพากษาจำคุกแก๊งโจ๋งานบวชวัดสิงห์ 16 คน ขัดขวางการสอบ GAT/PAT เผยหนักสุดติดเกือบ 20 ปี
เมื่อวันที่ 30 ก.ย.62 ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 3 เป็นโจทก์ฟ้องร้องกลุ่มวัยรุ่นจากงานบวช จำนวน 22 คน ขัดขวางการสอบ GAT/PAT ภายในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่สามารถใช้เครื่องขยายเสียงในงานบวชเพื่อน จนบุกเข้าไปก่อนเหตุความวุ่นวายในการสอบนั้น
ฝ่ายโจทย์ได้ฟ้องร้องในกรณีร่วมกันกระทำความผิด ฐานมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายรวม 15 คน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ของผู้เสียหาย 2 ราย ร่วมกับข่มขืนใจผู้อื่นฯ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด และจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร
ในจำนวนนี้ มีจำเลยที่ 6 คน ที่ไม่มีพยานโจทก์เบิกความถึง ทั้งไม่ได้ข้อเท็จจริงว่าร่วมกับจำเลยคนอื่นในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ปรากฏว่า ถูกชี้ตัวจากผู้เสียหายคนใด คงมีเพียงภาพจากกล้องวีดิโอวงจรปิดว่าเข้าไปภายในโรงเรียน จึงฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิดในข้อหาอื่นยกเว้นข้อหาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดที่ให้การรับสารภาพเท่านั้น
เมื่อศาลพิจารณาพฤติการณ์แวดล้อมประกอบแล้ว จำเลยที่เหลือทั้ง 16 คน อยู่ภายในงานบวชด้วยกัน แต่งกายลักษณะเดียวกัน เดินไปที่เกิดเหตุพร้อมกันและในเวลาใกล้ชิดกัน ต่างกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน และกลับออกจากที่เกิดเหตุในเวลาใกล้ชิดกัน จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 16 คน เป็นตัวการร่วมกัน โดยเมื่อตัวการคนใดคนหนึ่งไปกระทำความผิด ตัวการอื่นแม้ไม่ได้ลงมือกระทำด้วยก็จำต้องรับผลของการกระทำนั้นด้วย โดยถือเอาการกระทำและเจตนาของตัวการผู้กระทำความผิดนั้นเป็นของตน
ในส่วนฐานความผิดนั้น เห็นว่า การร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ก็เพื่อเข้าไปมั่วสุมกันก่อความวุ่นวายขึ้นในโรงเรียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเมือง โดยใช้วิธีขับไล่ครูคุมสอบและนักเรียนให้ออกจากห้องสอบอันเป็นการข่มขืนใจผู้อื่นฯ ถือเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษฐานร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด
แต่เมื่อครูคุมสอบหรือนักเรียนขัดขืน จำเลยบางคนจึงทำร้ายครูผู้คุมสอบหรือนักเรียนนั้นๆ หรือทำลายทรัพย์สินให้ได้รับความเสียหายนับว่าเป็นเจตนาที่เกิดขึ้นใหม่ในขณะนั้น หาใช่เจตนาแต่เดิมตั้งแต่ต้น จึงเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมกัน เมื่อจำเลยแต่ละคนลงมือกระทำความผิดภายในเจตนาร่วมกันนี้ ตัวการผู้ร่วมกระทำความผิดคนอื่นจึงต้องรับผลของการกระทำความผิดเสมือนเป็นเจตนาและการกระทำของตนด้วย
โดยมีคำพิพากษาให้ จำเลยที่ 1 และที่ 18 จำคุกคนละ 15 ปี 11 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 17 ปี 5 เดือน จำเลยที่ 3 จำคุก 13 ปี 2 เดือน 15 วัน จำเลยที่ 4 ที่ 10 ที่ 12 และที่ 15 จำคุกคนละ 18 ปี 11 เดือน จำเลยที่ 7 และที่ 9 จำคุกคนละ 13 ปี 7 เดือน 10 วัน จำเลยที่ 11 จำคุก 13 ปี 10 เดือน 15 วัน
จำเลยที่ 13 จำคุก 11 ปี 10 เดือน 15 วัน จำเลยที่ 14 จำคุก 13 ปี 6 เดือน 20 วัน จำเลยที่ 17 จำคุก 19 ปี 3 เดือน จำเลยที่ 19 จำคุก 14 ปี 10 เดือน 20 วัน จำเลยที่ 20 จำคุก 16 ปี 4 เดือน 22 วัน จำเลยที่ 5 ที่ 6 ที่ 8 ที่ 21 และที่ 22 จำคุกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 2,500 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 7 ที่ 9 ถึงที่ 15 และที่ 17 ถึงที่ 20 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 1 (โรงเรียน) จำนวน 35,400 บาท และแก่ผู้เสียหายที่ 16 จำนวน 56,142.50 บาท
ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 7 ที่ 10 และที่ 12 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 10 จำนวน 35,737 บาท และให้จำเลยที่ 15 และที่ 17 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 12 จำนวน 55,352.50 บาท ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 16 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
โดยจำเลยแต่ละรายมีชื่อดังนี้ นายมนตรี หรืออุ๊ พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี ชาว กทม.ย่านบางขุนเทียน จำเลยที่ 1 , นายวัลลภ หรือเอกไฝ นุชแฟง อายุ 32 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 2 , นายชาติสยาม จันทรวิภาค อายุ 24 ปี ชาว กทม. ย่านบางแค จำเลยที่ 3 , นายณัฐพงศ์ หรือเต้ย นุชแฟง อายุ 18 ปีเศษ ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 4 , นายศรายุทธ หรือเต๋า นุชแฟง อายุ 24 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 5
นายจีรศักดิ์ หรือหนึ่ง นีละเสวี อายุ 41 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 6 , นายสมชาย หรือปี๊ด แก้วสิมมา อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด จำเลยที่ 7 , นายชัชศิริ หรือกล้วย แซ่โง้ว อายุ 39 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 8 , นายธวัช หรือวัช สดำพงษ์ อายุ 33 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จำเลยที่ 9 , นายวรภัทร หรือแอมพินิจปรีชา อายุ 28 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร
จำเลยที่ 10นายอนุกูล หรือเอกหนัง สังข์ศรี อายุ 33 ปี ชาว กทม. ย่านจอมทอง จำเลยที่ 11 , นายจิรายุทธ หรือบอย อาจอาสา อายุ 25 ปี ชาว จ.สุรินทร์ จำเลยที่ 12 , นายธิติ หรือ ออฟ ไวยสุกรี อายุ 26 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 13 , นายเมืองแมน หรือนาจ นิลโพธิ์ทอง อายุ 18 ปีเศษ ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 14 , นายวิโรจน์ หรือโอ คำชาย อายุ 28 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน
จำเลยที่ 15 นายดลราม หรือฟลุค เก่งวิชา อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร จำเลยที่ 16 , นายขวัญชัย หรือขวัญ สุขเสมอ อายุ 29 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 17 , นายเอกลักษณ์ หรืออาร์ม พูลทรัพย์ อายุ 26 ปี ชาว กทม.ย่านบางขุนเทียน จำเลยที่ 18 , นายไน้ท หรือปอน จ้อยเจริญ อายุ 20 ปี ชาว กทม.ย่านจอมทอง จำเลยที่ 19 , นายชนะชัย หรือ กอล์ฟ ใจหล้า อายุ 25 ปี ชาว กทม.ย่านบางบอน จำเลยที่ 20 , นายสิทธิชัย หรือต่าย จรสุข อายุ 37 ปี ชาว จ.อ่างทอง จำเลยที่ 21 , นายพีรพล หรือนะ เอมชาวนา อายุ 28 ปี ชาว จ.อ่างทอง จำเลยที่ 22