ซีพีที’หวังผลดำเนินงานครึ่งหลังฟื้น หนุนปีนี้‘พลิกกำไร’
“ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์” คาดปีนี้จะพลิกมีกำไรเล็กน้อย จากงวดครึ่งปีแรกที่ขาดทุน 10.86 ล้านบาท เหตุจ่อบุ๊คแบ็กล็อกเข้ามาในช่วงไตรมาส 4ปี62 พรึบ ส่วนรายได้คาดทรงตัวจากปีก่อนหลังเศรษฐกิจชะลอตัว ลุ้นผลประมูลงานใหม่กว่า 1 พันล้าน ด้านซีอีโอชู 3กลยุทธ์
นายสมศักดิ์ หลิมประเสริฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT เปิดเผยว่า ผลประกอบการปีนี้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยกำไรสุทธิน่าจะเป็นบวกได้เพียงเล็กน้อย หลังครึ่งปีแรกผลขาดทุนกว่า 10.86 ล้านบาท แต่รายได้น่าจะทำได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 964 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวตาม
บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในงวดครึ่งปีหลังจะมีทิศทางดีขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 4ปี2562 เนื่องจากเป็นช่วงพีคที่สุดของผลประกอบการ ประกอบกับบริษัทจะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ในโรงงานแห่งใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าในระดับพรีเมียมในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆและรับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งมีกำลังการผลิตตู้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นราว 3-4 พันชิ้นต่อปี จากโรงงานเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ 6พันชิ้นต่อปี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ทำรายการขายหุ้น CPT จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้น 0.83 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นเงินรวม 41.5 ล้านบาท ผ่านการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้กับนายชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์ ซึ่งจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทรวม 5.56% และมีส่วนร่วมในการบริหารบริษัท
นายชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPT กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการขับเคลื่อนองค์กรภายใต้ 3 กลยุทธ์ คือ1.เพิ่มคำสั่งซื้อจากฐานลูกค้าในมือและขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ 2.เพิ่มศักยภาพธุรกิจการให้คำปรึกษาและซ่อมบำรุงหลังการขาย และ3.การหาโอกาสเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมลงทุน (Joint Venture)
ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปี ประเมินว่างานใหม่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามนโยบายการลงทุนภาครัฐ ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) กว่า 450 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ราว 300 ล้านบาท และอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่กว่า 1 พันล้านบาท ประกอบไปด้วย งานโครงการแอลเอ็นจีของบมจ.ปตท. (PTT),โครงการของประปานครหลวง และงานในโรงงานอุตสาหกรรม คาดหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นายมนต์ชัย ธัญธเนส รองกรรมการผู้จัดการ CPT กล่าวว่า การร่วมลงทุนกับพันธมิตรในโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็ก (VSPP) 9 โครงการ กำลังการผลิตรวม 9 เมกะวัตต์ (MW) คาดว่าในไตรมาส 4 ปี2562 จะสามารถสรุปได้ 1 โครงการในจังหวัดชัยนาท กำลังการผลิตราว 1 MW โดยแหล่งเงินทุนนั้น บริษัทมีเงินสดในมือ 400 ล้านบาท คาดว่าจะรองรับการลงทุนดังกล่าวได้ ส่วนโครงการที่เหลืออีก 8 โครงการ เราคาดว่าจะทยอยรับรู้ผลในระยะถัดไป ส่วนแหล่งเงินทุนของโครงการที่เหลือนั้น นอกจากเงินเงินสดในมือ อาจจะออกเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ มาช่วยสนันสนุน