องค์กรที่ถูกลืม โจทย์ใหญ่เจนสาม ‘อิตัลไทย’

องค์กรที่ถูกลืม โจทย์ใหญ่เจนสาม ‘อิตัลไทย’

“ยุทธชัย จรณะจิตต์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอิตัลไทย มองว่าโลกยุคนี้มีความท้าทายที่น่าหวั่นไหว เป้าหมายก็คือ อิตัลไทยต้องเป็นองค์กรที่คนทุกยุคทุกสมัยรู้จัก พูดถึงและชื่นชม องค์กรที่ “ถูกลืม” เลยเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขา

ทั้งมองว่า “ดิจิทัล ดิสรัปชั่น” เป็นเรื่องจริง เขาเคยกล่าวในงานแถลงข่าวโมเดล YourNextU ของ SEAC ว่าทุกๆองค์กรจะต้องเปิดอกยอมรับและต้องอยู่กับมันให้ได้ ทั้งต้องทำให้คนในองค์กรยอมรับ รวมถึงหาวิธีในการแข่งขัน


"สำหรับกลุ่มอิตัลไทยถือว่ามีความท้าทายมากถึงมากที่สุด เวลานี้ยังค่อนข้างสับสนอลหม่านเพราะด้วยความที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลานาน ทำธุรกิจก็หลายเซ็คเตอร์ จำนวนพนักงานก็มีมากและมีอยู่หลายเจนเนอเรชั่น คงไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ต้องพยายามผสมผสานทุกอย่างให้เกิดความเหมาะสม"


ธุรกิจของอิตัลไทยในปัจจุบันประกอบด้วย 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่าย และให้บริการหลังการขายเครื่องจักรกลหนัก สำหรับงานอุตสาหกรรมและงานก่อสร้าง 2.ธุรกิจรับเหมางานวิศวกรรมและก่อสร้างแบบครบวงจร งานด้านระบบไฟฟ้าแรงสูง พลังงานทดแทนก่อสร้างโยธาของโรงงานอุตสาหกรรม อาคารคลังสินค้าอัตโนมัติก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและเครื่องกลของกลุ่มปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ รวมถึงงานระบบประกอบอาคารสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร และ Smart Solution 3.ธุรกิจบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ภายใต้แบรนด์ อมารี โอโซ่ และชามา รวมถึงโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล แบงค๊อกด้วย และ 4.ธุรกิจไลฟ์สไตล์ จัดจำหน่ายเครื่องดื่มและไวน์ระดับพรีเมี่ยม น้ำแร่โอจูจากฝรั่งเศส และน้ำผลไม้เอซีเฟรช แฟรนไชส์แบรนด์ TWG Tea และศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ แบงค๊อก

อย่างไรก็ดี สำหรับเขามองว่าในทุกๆ 10 ปี การเปลี่ยนแปลงมักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ และเตรียมความพร้อมในระดับหนึ่ง


“มองว่าทุกอย่าง รวมทั้งชีวิตของคนเราจะมีไซเคิลอยู่ที่ 10 ปี แล้วก็ต้องมองหาอะไรใหม่ ๆ สิ่งที่ผมทำก็คือ การตั้งเป้าหมายว่าใน 10 ปีนี้ผมจะทำอะไร และ 10 ปีถัดไปผมจะทำอะไรต่อ”


เป้าหมายของเขาในวันนี้ก็คือการขับเคลื่อนอิตัลไทยสู่การเป็นองค์กรที่โมเดิร์น แข็งแกร่ง แข่งขันได้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ


"การที่ผมเร่งสเกลอัพๆ องค์กรอย่างต่อเนื่อง คนที่ทำงานกับผม บางคนก็บอกว่า ผมเปลี่ยนเร็วไป เยอะไป แต่ผมบอกว่า เราต้องเปลี่ยน เพื่อความอยู่รอด เพื่อจะแข่งขันกับต่างชาติได้ เราอยากเป็นองค์กรที่สามารถสร้างงานหลายพันหลายหมื่นจ็อบให้กับคนไทย ให้คนไทยได้ทำงานในองค์กรที่ดีและเป็นองค์กรไทย ผมจะพยายามรักษาจุดยืนตรงนี้ไว้"


การจะบรรลุเป้าหมายได้ก็ขึ้นอยู่หลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะมีวิสัยทัศน์ที่ดี มีแผนที่ดี มีกลยุทธ์ธุรกิจที่ดี เวลานี้อิตัลไทยมุ่งเน้นการหาความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่ใช่ โดยล่าสุดก็ได้ไปจับมือกับ ทาดาโน แจแปน เพื่อจะขายรถเครนพร้อมบริการหลังการขายในประเทศไทย และลาว ซึ่งทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจลดลง ยุทธชัยบอกว่าหากสามารถหาพาร์ทเนอร์ได้ถูกต้องก็ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว


แต่อีกหนึ่งปัจจัยสำเร็จคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “คน” ซึ่งกลุ่มบริษัทอิตัลไทยมีพนักงานกว่า 5 พันคน ทำงานใน 9 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก


"แม้ว่าอิตัลไทยจะมีอายุมากกว่า 60 ปีก็ตาม แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการวางไดเร็คชั่นที่ชัดเจน เมื่อก่อนมันมีความเป็นไซโล ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ ผมเลยสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร ก็ขับเคลื่อนมา 3 ปีแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นยูนิตี้ ให้พนักงานทุกคนรู้ว่าพวกเขาคือคนของอิตัลไทย"

สำหรับค่านิยมหรือหลักปฏิบัติเพื่อทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง มีดังนี้
-Listen. Speak. Share เปิดใจฟัง ตั้งใจพูด พร้อมแบ่งปันการทำงานเป็นทีมอย่างร่วมมือกัน ทำให้เราไปได้ไกลและเร็วกว่า ซึ่งหัวใจสำคัญ คือการสื่อสารกันให้มากขึ้น
-Learn and grow เรียนรู้ เพื่อเติบโต พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้จากสิ่งรอบๆ ตัว เรียนรู้จากทั้งความสำเร็จ และความผิดพลาดจากประสบการณ์ทั้งในการทำงาน และนอกเหนือจากงาน
- Create an Impact สร้างผลลัพธ์ที่ดีคิด และทำสิ่งที่แตกต่าง เพื่อสร้างผลกระทบที่ใหญ่กว่างานที่เคยทำ
- Do what is right ทำสิ่งที่ถูกต้อง เลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดต่อบริษัท และถูกต้องที่สุดกับทุกคนที่เราร่วมงาน
- Bring fun to work พกความสนุกมาทำงานด้วยใส่ “หัวใจ” ลงในทุกอย่างที่ทำ สร้างบรรยากาศการทำงานทุกวัน ที่เต็มไปด้วยความคิดบวก ความมุ่งมั่นตั้งใจ และเสียงหัวเราะ
- Never give up อย่ายอมแพ้ มองอุปสรรคและความท้าทายเป็นเรื่องปกติของการทำงาน การเอาชนะและก้าวข้ามไปได้จะทำให้เราเก่งและแกร่งขึ้น


เขายอมรับว่า ก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะถูกต้องหรือไม่ เอาเข้าจริงตัวเขาเองก็มีบางเรื่องที่ไม่รู้ แต่ด้วยความเป็นผู้นำ ก็ต้องทำเสมือนว่ารู้ดี รู้จริง เพื่อสร้างความมั่นใจ


"สิ่งที่ผมทำ ก็คือการสร้างภาพล้วนๆ เป็นการ Make Beleive ให้มีความเชื่อว่าองค์กรจะต้องไปถึงจุดหมายให้ได้ ซึ่งในหนังสือ Good Boss, Bad Boss ของ Robert I.Sutton ก็บอกว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น การเป็นผู้นำ แม้ว่าเราอาจไม่รู้แต่ก็ต้องมีความเชื่อว่าเราพาพวกเขาไปได้ เราต้องเชื่อก่อน ถ้าเราไม่เชื่อ คนอื่นจะเชื่อได้อย่างไร"


และถ้าเรื่องไหนไม่รู้ ก็สามารถปิดแก็บด้วยการต้องไปหาคนเก่ง คนที่รู้ มาช่วยทำงาน แต่เน้นว่าต้องเป็นคนที่มี Passion ด้วย


ถามว่า ทำอย่างไรให้เป็นองค์กรที่ยั่งยืน ไม่กลายเป็นองค์กรที่ถูกลืมอย่างที่นึกกลัว เขาบอกว่าแม้ทุกวันนี้อิตัลไทยคือองค์กรใหญ่ แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ควรยึดติดกับความสำเร็จ ไม่รู้สึกว่าเจ๋งแล้ว แกร่งแล้ว เพราะถ้าคิดแบบนี้เมื่อไหร่ก็จะลงเอยที่ความหายนะ


" ที่ผมพยายามก็คือ ทำผิดให้น้อย ทำถูกให้เยอะ ทำผิดได้แต่อย่าพัง ถ้าผิดต้องรู้และลุกให้เร็ว และอย่าทำผิดซ้ำซาก ที่ผ่านมาก็มีปัญหาบ้าง มีการลงทุนผิดบ้าง แต่ความสำคัญอยู่ที่เราจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด กับทีมงานผมก็เน้นย้ำเรื่องนี้ เขาทำผิดพลาดได้ แต่ถ้าทำถูกก็ฉลองร่วมกัน ทำผิดเราก็ต้องเรียนรู้ด้วยกัน"